‍

Weekly Recap Research

‍

DOGE ดีดกลับเหนือเส้นเทรนด์ ขณะที่ SHIB ยังอ่อนแรงทดสอบแนวรับขาลง

‍

ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2025 ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ระมัดระวัง ส่งผลให้เหรียญมีมหลักอย่าง Dogecoin (DOGE) และ Shiba Inu (SHIB) เคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย DOGE สามารถฟื้นตัวได้เด่นชัด ขณะที่ SHIB ยังคงอ่อนแรงภายใต้โครงสร้างราคาขาลงในกรอบรายวัน

ราคา Dogecoin ขยับขึ้นราว 3% หลังจากลงไปแตะระดับต่ำใกล้ 0.155 ดอลลาร์ ก่อนดีดกลับเหนือเส้นแนวโน้มขาขึ้น พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่พุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยเกือบสองเท่า ซึ่งสะท้อนสัญญาณการสะสมจากผู้เล่นรายใหญ่ DOGE ยังคงมีแนวรับสำคัญที่ช่วง 0.163–0.164 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านถัดไปอยู่บริเวณ 0.165–0.168 ดอลลาร์ และหากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 0.162 ดอลลาร์ได้ อาจเผชิญแรงขายรอบใหม่ในระยะสั้น

ในขณะเดียวกัน Shiba Inu ยังคงเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่อง โดยราคาปรับตัวลงราว 2% และหลุดแนวรับรายวันที่ 0.00000924 ดอลลาร์ แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาดึงราคาให้ดีดกลับภายในกรอบเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่โครงสร้างราคาภาพรวมยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 0.00000902 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 0.00000924 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาไม่สามารถฝ่าแนวต้านดังกล่าวได้ มีโอกาสปรับฐานต่อไปสู่โซน 0.00000870 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่าการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันระหว่าง DOGE และ SHIB สะท้อนถึงการเลือกคัดเลือกสินทรัพย์ของนักลงทุนในช่วงตลาดผันผวน โดย DOGE ได้แรงหนุนจากโครงสร้างทางเทคนิคที่แข็งแรงกว่า ขณะที่ SHIB ยังคงเผชิญแรงกดดันจากทิศทางขาลงในภาพรวมระยะยาว

‍

JPMorgan ชี้แนวรับ Bitcoin อยู่ที่ 94,000 ดอลลาร์ หนุนมุมมองราคามีโอกาสขึ้นแตะ 170,000 ดอลลาร์

‍

รายงานล่าสุดจากทีมวิเคราะห์ของ JPMorgan ระบุว่า แนวรับของ Bitcoin อยู่ที่ระดับประมาณ 94,000 ดอลลาร์ โดยถูกมองว่าเป็น “แนวรับเชิงพื้นฐาน” ของราคา ในขณะเดียวกัน ราคาตลาดปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับดังกล่าว ส่งผลให้มุมมองของนักวิเคราะห์ประเมินว่าความเสี่ยงด้านขาลงในช่วงระยะนี้ยังคงจำกัด

แม้ตลาดคริปโตยังเผชิญแรงกดดันจากสภาพคล่องและความผันผวนในระดับสูง แต่ JPMorgan ยังคงมุมมองเชิงบวก โดยยืนยันกรอบประมาณการเดิมที่มองว่า Bitcoin มีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 170,000 ดอลลาร์ ภายในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้คาดการณ์ดังกล่าวอ้างอิงการเปรียบเทียบกับทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทเดียวกัน รวมถึงสมมติฐานว่าตลาดจะให้น้ำหนักความเสี่ยงของ Bitcoin มากกว่าทองประมาณ 1.8 เท่า

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของธนาคารระบุว่าการปรับตัวขึ้นสู่ระดับดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากปัจจัยลบระยะสั้นยังคงกดดันทิศทางราคา โดยเฉพาะแรงขายจากนักลงทุนสถาบันและสภาวะตลาดที่เปราะบางในปีนี้ แต่ภาพรวมเชิงโครงสร้างระยะยาวยังคงอยู่ในทิศทางบวก ตราบใดที่ราคาไม่หลุดระดับ 94,000 ดอลลาร์

‍

Top Net flows

‍

Arbitrum ครองอันดับหนึ่งด้านกระแสเงินไหลเข้าในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ด้วย NetFlow รวมกว่า 289.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Ethereum และ BNB Chain ถูกเทขายต่อเนื่อง โดยมี NetFlow อยู่ที่ -142 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ -85.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ข้อมูลล่าสุดจาก Artemis สะท้อนให้เห็นการเคลื่อนย้ายสภาพคล่องที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างบล็อกเชน โดย Arbitrum ขึ้นแท่นเป็นเครือข่ายที่มีเงินไหลเข้าสูงที่สุด ท่ามกลางแรงไหลออกจาก Ethereum, BNB Chain และ Hyperliquid ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่เผชิญแรงขายหนักที่สุดในสัปดาห์นี้

ด้านกระแสเงินไหลเข้า นอกจาก Arbitrum แล้ว Sei Network, Bitcoin, Polygon PoS และ Solana ต่างยังคงมีทิศทางเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะฝั่ง L2 ที่ยังคงดึงสภาพคล่องออกจากเครือข่ายหลักอย่างเห็นได้ชัด

ในทางกลับกัน เครือข่ายใหญ่ฝั่ง EVM อย่าง Ethereum และ BNB Chain ยังคงเผชิญแรงถอนสภาพคล่องจำนวนมาก ขณะที่ Hyperliquid มีเงินไหลออกสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ สอดคล้องกับความผันผวนของตลาดและการเคลื่อนย้ายผู้ใช้งานไปยังเชนที่มีผลตอบแทนและกิจกรรมมากกว่า ภาพรวมทั้งหมดนี้สะท้อนแนวโน้มการ “หมุนสภาพคล่อง” ไปสู่เครือข่ายที่มีแอ็กทิวิตี้สูง โดยเฉพาะ Arbitrum และ Sei ที่กำลังกลายเป็นจุดโฟกัสใหม่ของตลาดคริปโตในระยะสั้น

‍

Fear & Greed Index

‍

ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ของเว็บไซต์ alternative.me เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ประเมินมุมมองและอารมณ์ของตลาดคริปโต โดยอ้างอิงคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 (0 หมายถึง ความกลัวสุดขีด หรือ Extreme Fear และ 100 หมายถึง ความโลภสุดขีด หรือ Extreme Greed)

ดัชนีความเชื่อมั่นตลาดคริปโต (Crypto Fear & Greed Index) ล่าสุด ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2025 อยู่ที่ระดับ 14 คะแนน จัดอยู่ในโซน Extreme Fear สะท้อนความวิตกกังวลของนักลงทุนหลังเผชิญแรงขายต่อเนื่อง ดัชนีลดลงจาก 29 คะแนนในสัปดาห์ก่อน ซึ่งอยู่ในโซน Fear และใกล้เคียงกับระดับเฉลี่ยเดือนที่ผ่านมา แต่ยังชี้ว่าความเชื่อมั่นโดยรวมอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ดัชนีเคยลงไปถึง 10 คะแนน ซึ่งเป็นหนึ่งในระดับต่ำสุดรอบหลายเดือน  

นักวิเคราะห์ระบุว่า Extreme Fear มักเกิดในช่วงความผันผวนสูงและแรงเทขายเพื่อจัดการความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ระดับความกลัวขั้นรุนแรงเหล่านี้มักมาพร้อมโอกาสสะสมสำหรับผู้เล่นระยะยาว เนื่องจากราคามักอยู่ในช่วงปรับฐานแรง ขณะเดียวกัน สถานการณ์ล่าสุดสะท้อนความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจมหภาคและแรงกดดันในตลาดคริปโตที่ยังไม่คลี่คลาย นักลงทุนยังจับตาปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ที่อาจกำหนดทิศทางราคาในสัปดาห์ข้างหน้า

‍

Bitcoin ETF Flow

‍

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 10–14 พฤศจิกายน 2025 กระแสเงินในกองทุน Bitcoin ETF แสดงความผันผวนอย่างชัดเจน แม้ในวันที่ 11 พฤศจิกายนจะมีเงินไหลเข้าสูงถึง 524 ล้านดอลลาร์ แต่โดยรวมทั้งสัปดาห์ถูกกดดันด้วยแรงขายต่อเนื่อง วันที่ 12 พฤศจิกายนมีกระแสเงินไหลออกกว่า 278 ล้านดอลลาร์ ก่อนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ 867 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบปี และยังต่อเนื่องด้วยการไหลออกอีก 492 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ส่วนวันที่ 10 พฤศจิกายน ภาพรวมแทบไม่เปลี่ยนแปลง มีกระแสเพียงเล็กน้อยราว 1.2 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ข้อมูลทั้งหมดสะท้อนแรงขายจากนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง รวมยอดไหลออกมากกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในไม่กี่วัน และชี้ให้เห็นความกดดันของตลาดคริปโตในระยะสั้นได้อย่างชัดเจน

‍

Ethereum ETF Flow

‍

กระแสเงินของ Ethereum ETF ยังคงอยู่ในภาวะไหลออกต่อเนื่อง โดยเริ่มจากวันที่ 10 พฤศจิกายนซึ่งแทบไม่พบความเคลื่อนไหวของเงินทุนอย่างมีนัยสำคัญ ก่อนจะกลับเข้าสู่ทิศทางลบอีกครั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน ด้วยยอดไหลออกกว่า 107 ล้านดอลลาร์จากกองทุนหลายค่าย โดยเฉพาะฝั่ง Grayscale ที่ยังคงเผชิญแรงขายอย่างหนัก

สถานการณ์ทวีความเข้มข้นขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน เมื่อยอดไหลออกรวมปรับเพิ่มขึ้นเป็นราว 183 ล้านดอลลาร์ และขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งมีเงินทุนไหลออกรวมกว่า 259 ล้านดอลลาร์ ขณะที่วันที่ 14 พฤศจิกายนยังคงมีแรงขายต่อเนื่องอีกกว่า 177 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ช่วงวันที่ 10–14 พฤศจิกายน กลายเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ Ethereum ETF เผชิญแรงเทขายหนัก สะท้อนภาวะชะลอตัวระยะสั้นที่นักลงทุนสถาบันกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด

‍

ข่าวสารสำคัญ:

สิงคโปร์เดินหน้าทดลอง “พันธบัตรดิจิทัลแบบโทเคน” พร้อมเตรียมออกกฎหมายคุมสเตเบิลคอยน์และใช้ CBDC ชำระธุรกรรม

ธนาคาร NH NongHyup เกาหลีใต้ทดลองคืนภาษีนักท่องเที่ยวด้วยสเตเบิลคอยน์บนเครือข่าย Avalanche

สภาพคล่องตลาดคริปโตยังอ่อนแอ หลังเหตุการณ์ตะลุมบอนเดือนตุลาคม เสี่ยงราคากระแทกแรงขึ้น

‍

ที่มา:

https://thecurrencyanalytics.com/bitcoin/bitcoin-faces-critical-test-as-price-rejection-shifts-battle-to-93k-97k-support-zone-213290

https://www.investing.com/analysis/bitcoin-likely-to-extend-its-correction-with-lower-support-levels-in-focus-200670184

https://finance.yahoo.com/news/crypto-market-slips-extreme-fear-171730062.html

‍

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้  

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้  

‍

ขอบคุณที่ติดตามครับ

JP. Deniel

‍

‍