
ให้วินัยชนะอารมณ์ ลงทุน Bitcoin แบบ DCA ช่วยเฉลี่ยความเสี่ยง ไม่ต้องลุ้นจังหวะโลก
โดดเด่นเพราะมันถูกออกแบบมาให้เป็นสินทรัพย์ที่หายาก โปร่งใส และไม่ต้องพึ่งพาอำนาจส่วนกลางในการควบคุม Bitcoin คือรูปแบบใหม่ของ “ทองคำดิจิทัล” สำหรับเก็บมูลค่าในระยะยาว ทั้งหมดนี้ทำให้มันยังเป็นสินทรัพย์ที่ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยสนใจ ไม่ว่าจะตลาดเหวี่ยงแค่ไหนก็ตาม
Bitcoin (บิตคอยน์) คือ สกุลเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ ที่ถูกออกแบบมาให้โอนส่งระหว่างผู้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินกลาง โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ในการจัดเก็บธุรกรรมทุกอย่างอย่างโปร่งใสและปลอดภัย
ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดยบุคคลนิรนามที่ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto


• เป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับป้องกันเงินเฟ้อ
• ถูกยอมรับเป็น “ทองคำดิจิทัล”
• มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว
• เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้โลกการเงินใหม่
ข้อดีของ Bitcoin
นักลงทุนที่มีข้อมูลตลาดครบถ้วนสามารถ กระจายความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และจัดพอร์ตให้สมดุลระหว่างสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ใช้ระบบเข้ารหัสขั้นสูงและโครงข่ายที่แข็งแกร่ง
ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้
• เข้าไปที่ https://blockchain.info/th/
• กรอก Txhash (Transaction ID) ในช่องค้นหาระบบจะแสดงหน้าสรุปการทำธุรกรรม สำหรับ BTC ธุรกรรมต้องการ อย่างน้อย 3 Confirm ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 30-60 นาทีโดยประมาณ
ตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือสภาพคล่องต่ำมักมี ความเสี่ยงในการลงทุนสูงกว่า ในขณะที่ตลาด ที่มีความมั่นคงและเติบโตต่อเนื่องมักจะเหมาะกับการลงทุนระยะยาวและมีความเสี่ยงน้อยกว่า
การตอบสนองของตลาดต่อข่าวสารต่าง ๆ เช่น กฎระเบียบ การแฮก หรือการปลดล็อกโทเคน ช่วย ให้นักลงทุน ประเมินความรู้สึกของตลาด (Market Sentiment) และปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที

Bitcoin เริ่มต้นถูกสร้างขึ้นจากจุดประสงค์ของ SatoshiNakamoto ในการหลีกเลี่ยงการควบคุมจากตัวกลาง แต่ในปัจจุบัน Bitcoin ยังได้รับการยอมรับจากผู้คนและสถาบันให้ได้เป็นStore of Value โดยหากเปรียบเทียบจากการเก็บเงินในสินทรัพย์ระหว่าง Bitcoinและทองคำ โดยการใช้วิธีแบบ DCA เริ่มต้นเดือนละ 1,000 บาท ตั้งแต่ 26 กันยายน 2563จนถึง 26 กันยายน 2568 คิดเป็นเวลา 5 ปี เห็นได้ชัดว่าแม้ในระยะสั้น 1 ปี ROI ของBitcoin จะน้อยกว่าทองคำ โดยอยู่ที่ 16.01% และทองคำ 23.55% แต่ในระยะกลางจนถึงยาวROI ใน Bitcoin เริ่มทิ้งห่างทองคำมากถึง 1-2 เท่า ทั้งนี้ความเชื่อมั่นของ Bitcoin จากนักลงทุนเองยังมาจากปัจจัยด้าน Supply ที่มีจำนวน 21 ล้านเหรียญถาวรและการขุดหรือจำนวนที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปีนั้นจะถูก Halving หรือลดอุปทานลงทุก ๆ 4 ปี ในขณะที่ตัวเลข Gold Supplyสะท้อนให้เห็นถึงจำนวนการเพิ่มขึ้นของทองคำ ทำให้ภาพลักษณ์ของทองคำยังมีความคล้ายเงินกระดาษนั้นทำให้ Bitcoin มีสภาวะการสร้าง Deflation อย่างชัดเจน และได้มีสถานะเป็น high-growth store of value ส่วนทางด้านทองคำเหมาะแก่การเป็นDefensive asset มากกว่า

จากสาเหตุที่กล่าวในข้างต้น เพราะในด้านของทองคำนั้นมีความผันผวนในระดับที่น้อยกว่าทำให้เปรียบเสมือนDefensive asset เห็นได้ว่าความผันผวนเฉลี่ยของทองคำลดลงทุกระยะเวลา ในขณะที่Bitcoin มีความผันผวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความสนใจของกลุ่มคนและแรงผลักดันจากนโยบายทางเศรษฐกิจทั่วโลกแต่แม้ทองคำจะมีความผันผวนต่ำกว่าและถูกจัดอยู่ในหมวด Defensive Assetที่เน้นความมั่นคงเป็นหลัก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความผันผวนที่สูงกว่าของ Bitcoin กลับสะท้อนถึงโครงสร้างการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอยู่ในช่วงเพิ่มการยอมรับทั่วโลกทั้งจากผู้ใช้งานทั่วไป ไปจนถึงนักลงทุนสถาบันและตลาดทุนที่เริ่มนำ Bitcoinเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตระยะยาวผ่านเครื่องมืออย่าง Spot ETFซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องและขยายฐานนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญด้วยอุปทานที่จำกัดและโปร่งใสประกอบกับวัฏจักร Halving ที่ลดจำนวนเหรียญใหม่ลงทุกสี่ปี ทำให้ราคา Bitcoinตอบสนองต่อความต้องการได้รวดเร็วกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมความผันผวนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างราคา และเป็นเหตุผลที่ทำให้Bitcoin มักมีรอบการฟื้นตัวที่แข็งแรงกว่าในช่วงที่ตลาดกลับมาเป็นบวกเมื่อมองในเชิงโครงสร้างแล้วความผันผวนน้อยของทองคำเหมาะสำหรับการรักษามูลค่าอย่างมั่นคงขณะที่ความผันผวนที่มากกว่าของ Bitcoin แม้ต้องการการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมแต่ก็เป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้เกิดอัตราการเติบโตที่สูงกว่าในหลายช่วงเวลาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ถือครองหรือทยอยลงทุนแบบ DCA ในระยะกลางถึงยาว

จากกราฟด้านบนจะเห็นว่าความผันผวนของBitcoin มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงแรกของการถือกำเนิดสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดและการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในระบบการซื้อขายทั่วโลกเมื่อมีผู้ใช้งานและสถาบันเข้ามาในตลาดมากขึ้น ราคาของ Bitcoin จึงเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบมากขึ้นกว่าในอดีตแม้ยังคงมีความผันผวนมากกว่าสินทรัพย์อย่างทองคำแต่ระดับความแกว่งตัวที่ลดลงนี้สะท้อนถึงการพัฒนาและการยอมรับของสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะทางเลือกสำหรับการออมมูลค่าในยุคใหม่เมื่อเทียบกับทองคำที่มีเสถียรภาพทางราคาและถูกใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมความผันผวนที่ต่ำกว่าจึงเป็นจุดเด่นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงแต่ในอีกด้านหนึ่ง Bitcoinที่ยังอยู่ในช่วงการเติบโตกลับตอบสนองต่อวัฏจักรเศรษฐกิจและกระแสการลงทุนได้รวดเร็วกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมนั่นทำให้การเคลื่อนไหวทางราคาของ Bitcoin สามารถสะท้อน sentimentของตลาดได้อย่างชัดเจนและเปิดโอกาสให้เกิดการฟื้นตัวในรอบบวกได้แรงกว่าในหลายปีที่ผ่านมาในระยะกลางถึงยาวความผันผวนที่มากกว่านี้เองที่ช่วยผลักดันโอกาสการเติบโตของ Bitcoinให้เหนือกว่าสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวช้า แม้จะมีความเสี่ยงที่ต้องบริหารจัดการแต่ก็เป็นคุณสมบัติที่ทำให้ Bitcoinยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นในรอบการลงทุนหลายปี ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนจำนวนไม่น้อยมองว่าเป็นข้อได้เปรียบในเชิงโครงสร้างของสินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่

Maxbit สมมติการลงทุน DCA ใน Bitcoin เดือนละ 399 บาท ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่ปี 2020 – 2025 รวมเงินต้น 23,940 บาท พบว่ามูลค่าพอร์ตทั้งหมดอยู่ที่ 43,370.72 บาท หรือกำไร +181.16%/5 ปี DCA หรือ Dollar-Cost Averaging เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ด้วยการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่ากันในทุกเดือน เน้นการสะสมสินทรัพย์ในระยะยาว แนวทางนี้ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถสะสมสินทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจับจังหวะตลาดอย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่นBitcoin อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลงทุนและสถานการณ์ตลาด การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงและเป้าหมายทางการเงินของคุณให้รอบคอบ
ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดำเนินงานในอนาคต
นักลงทุนเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มที่ขออนุญาตจากกระทรวงการคลังอย่างถูกต้องและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต
แมกซ์บิทมีความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานเพราะเรามีมาตรฐานระดับโลกอย่าง
ISO/IEC 27001:2022 และ ISO 27701
ฝ่ายบริการลูกค้าของเราให้บริการ 24/7 ผ่านระบบ Line OA และ Chat Live

ลงทะเบียนอย่างปลอดภัยกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต


