ประกาศและข่าวสารเหรียญต่าง ๆ

Weekly Recap Research 27 Oct - 02 Nov 2025

ประจำสัปดาห์ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2568

สารบัญเนื้อหา

Weekly Recap Research

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาดีขึ้น หลังทั้งสองประเทศตกลงลดมาตรการภาษีและเพิ่มการค้าระหว่างกัน

[https://cryptoslate.com/us-china-trade-deal-marks-the-biggest-de-escalation-yet-for-global-markets]

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้าฉบับสำคัญระหว่างสหรัฐฯ และจีน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อบรรเทาความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ข้อตกลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดระดับความขัดแย้ง (De-escalation) ระหว่างสองชาติมหาอำนาจ โดยตามเอกสารข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว ข้อตกลงดังกล่าวประกอบด้วยหลายประเด็นสำคัญจากฝั่งจีน ได้แก่ การยุติมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากและแร่ธาตุสำคัญฉบับใหม่ การระงับการไหลเข้าของสารตั้งต้นเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ การยกเลิกภาษีตอบโต้และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีทั้งหมดที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2025 รวมถึงการรับประกันจากจีนว่าจะนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 12 ล้านเมตริกตันภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มปริมาณการนำเข้าเป็นอย่างน้อย 25 ล้านเมตริกตันต่อปีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2028

สหรัฐอเมริกาได้ประกาศลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลง 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 พร้อมทั้งขยายเวลามาตรการยกเว้นภาษีตามมาตรา 301 (Section 301 tariff exclusions) ออกไปอีกหนึ่งปี นอกจากนี้ยังมีการระงับมาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนในภาคการเดินเรือและโลจิสติกส์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศในระยะสั้น

ข้อตกลงทางการค้าครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้ปรับโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยยุติวงจรของมาตรการตอบโต้ที่เคยบั่นทอนผลกำไรของภาคธุรกิจและสร้างความไม่แน่นอนให้กับห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมสำคัญ ผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากข้อตกลงนี้ ได้แก่ ภาคการเกษตรของสหรัฐฯ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และการผลิตแร่ธาตุสำคัญ (critical minerals) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค นักวิเคราะห์มองว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตราสารทุน หุ้นเทคโนโลยี และสินทรัพย์ดิจิทัล อาจได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่กลับมา หลังความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและการค้าลดลง ตลาดคริปโตที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาอาจเห็นการไหลเข้าของเงินทุนจากสถาบันเพิ่มขึ้น ขณะที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศที่ดีขึ้นอาจเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดนของบริษัทคริปโตในสหรัฐฯ และช่วยลดแรงผันผวนที่เกิดจากข่าวสารในตลาด

Aster ทะยานขึ้น หลัง CZ เปิดเผยมีส่วนได้ส่วนเสียมูลค่ากว่า 2.5 ล้านดอลลาร์

[https://cointelegraph.com/news/aster-token-surges-after-cz-buys-two-million-tokens]

โทเคน ASTER ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 20% หลังจาก Changpeng Zhao (CZ) ผู้ก่อตั้ง Binance เข้าซื้อโทเคนจำนวน 2 ล้านเหรียญ ส่งผลให้เกิดกระแสความสนใจและแรงเก็งกำไรในตลาด โครงการเบื้องหลัง ASTER เป็นแพลตฟอร์มอนุพันธ์ที่ผ่านการรีแบรนด์ใหม่ โดยรวมโทเคนรุ่นเก่าเข้าด้วยกันและเปิดตัวอีกครั้งพร้อมการสร้างโทเคน (TGE) ในเดือนกันยายน 2025

ASTER มีอุปทานสูงสุดที่ 8 พันล้านโทเคน โดยกว่าครึ่งหนึ่งถูกจัดสรรเพื่อใช้เป็นสิ่งจูงใจให้กับชุมชน ทั้งในรูปแบบของการ Airdrop และการแจกจ่ายเชิงกลยุทธ์ แพลตฟอร์มดังกล่าวนิยามตัวเองว่าเป็นกระดานเทรดแบบไฮบริดกระจายอำนาจ (Hybrid DEX) ที่รองรับการซื้อขายทั้งสัญญา Perpetual และ Spot บนหลายบล็อกเชน พร้อมคุณสมบัติเด่น เช่น คำสั่งซื้อขายแบบซ่อน (Hidden Orders) และการใช้เลเวอเรจในระดับสูง

การรับรองอย่างเปิดเผยจาก CZ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จุดกระแสให้ราคาของ ASTER พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลบน On-chain ที่นักวิเคราะห์อ้างอิงเผยให้เห็นว่ากระเป๋าเงินของ ASTER ได้มีการสะสม USDT เป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเครือข่าย BNB Chain รองจาก Binance เอง อย่างไรก็ตาม แม้การปรับขึ้นของราคาจะเกิดขึ้นจริง แต่ความเสี่ยงต่อการปรับฐานก็ยังคงมีอยู่สูง เนื่องจากอุปทานโทเคนที่มาก การแข่งขันที่เข้มข้นจากคู่แข่งอย่าง HYPE รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสและเรื่องเล่ามากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ชัดเจนและยั่งยืน ทำให้สถานการณ์นี้ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดจากฝั่งนักลงทุน

Top Net flows

[https://app.artemisanalytics.com/flows]

ข้อมูลล่าสุดสะท้อนสัญญาณสำคัญของตลาดคริปโตว่า สภาพคล่องกำลังเคลื่อนย้ายจากเครือข่ายหลักอย่าง Ethereum ไปสู่ Layer 2 และบล็อกเชนเกิดใหม่อย่าง Starknet, Arbitrum และ edgeX อย่างชัดเจนในสัปดาห์นี้ โดย Starknet กลายเป็นเครือข่ายที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดในตลาด อยู่ที่ 176 ล้านดอลลาร์ กระแสดังกล่าวสะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อเทคโนโลยี Cairo VM การเติบโตของระบบนิเวศ DeFi และการคาดการณ์ถึงโปรแกรม Incentive ที่จะเปิดตัวในอนาคต รองลงมาคือ Arbitrum ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิราว 68.5 ล้านดอลลาร์ ยังคงเป็นศูนย์กลางกิจกรรม DeFi หลัก เช่น GMX, Radiate, Pendle และโปรโตคอล Yield farming ต่าง ๆ ที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวแข็งแกร่ง ส่วน edgeX และ Polygon PoS ก็มี inflow เด่นเช่นกัน จากความนิยมของผู้ใช้งานที่ต้องการเครือข่ายที่ให้ผลตอบแทนสูงและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า Ethereum

ในทางกลับกัน Ethereum กลับมีเงินไหลออกสุทธิสูงที่สุดในรอบสัปดาห์กว่า 303 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจสะท้อนถึงการย้ายสินทรัพย์ไปยัง Layer 2 เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม reward หรือ DeFi ใหม่ ๆ ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ขณะเดียวกัน BNB Chain, Hyperliquid, Unichain และ Linea ก็มีเงินไหลออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Hyperliquid ซึ่งเคยได้รับความนิยมจากการเทรดฟิวเจอร์ส แต่เริ่มเผชิญภาวะผลตอบแทนที่ลดลงในช่วงหลัง

Fear & Greed Index

[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index]

ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ของเว็บไซต์ alternative.me เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ประเมินมุมมองและอารมณ์ของตลาดคริปโต โดยอ้างอิงคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 (0 หมายถึง ความกลัวสุดขีด หรือ Extreme Fear และ 100 หมายถึง ความโลภสุดขีด หรือ Extreme Greed)  

ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42 จุด ซึ่งอยู่ในโซน “ความกลัว” หลังจากเดือนก่อนตลาดยังอยู่ในภาวะ “ความโลภ” ด้วยค่าดัชนีสูงถึง 71 จุด ภาวะปัจจุบันสะท้อนถึงบรรยากาศของ “ความกลัวอย่างมีเหตุผล” (Rational Fear) ภายหลังจากช่วงที่นักลงทุนแสดงความมั่นใจมากเกินไปในเดือนที่ผ่านมา นักลงทุนจำนวนมากอยู่ในช่วงปรับพอร์ตและรอความชัดเจนของทิศทางราคา Bitcoin รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากหลากหลายปัจจัย ทั้งเศรษฐกิจโลก ข่าวลือด้านกฎหมาย การเมืองระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของผู้ถือรายใหญ่ เมื่อพิจารณาร่วมกับข้อมูล Netflow บนเครือข่ายต่าง ๆ การที่ดัชนี Fear & Greed อยู่ในระดับ 42 จุด จึงอาจสะท้อนว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วง “พักฐาน” ก่อนเข้าสู่จุดตัดสินใจสำคัญของวัฏจักรใหม่ในตลาดคริปโต

Bitcoin ETF Flow

[https://farside.co.uk/btc]

ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน Bitcoin ETF เผชิญความผันผวนสูงอีกระลอก โดยวันที่ 27–28 ตุลาคม มีเงินไหลเข้าสุทธิอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยวันที่ 27 ตุลาคม ราว 149.3 ล้านดอลลาร์ และวันที่ 28 ตุลาคม ราว 202.4 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 29–31 ตุลาคม ตลาดกลับมามีแรงขายอีกครั้ง นำโดยการไหลออกจากกองทุนหลักอย่าง IBIT, FBTC และ ARKB โดยวันที่ 29 ตุลาคม มีเงินไหลออกสุทธิราว 470.7 ล้านดอลลาร์, วันที่ 30 ตุลาคม ราว 488.4 ล้านดอลลาร์ และวันที่ 31 ตุลาคม ราว 191.6 ล้านดอลลาร์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนถึงแรงขายทำกำไรของนักลงทุนสถาบันก่อนสิ้นเดือน รวมถึงการปรับพอร์ตตามดัชนี (Portfolio Rebalancing)

Ethereum ETF Flow

[https://farside.co.uk/eth/]

สัปดาห์สุดท้ายของตุลาคม 2025 แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพคล่องในตลาด Ethereum ETF อย่างชัดเจน ตั้งแต่แรงซื้อกลับที่หนุนราคาช่วงต้นสัปดาห์ ไปจนถึงแรงขายทำกำไรปลายเดือน โดยวันที่ 27 ตุลาคม มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิราว 133.9 ล้านดอลลาร์ และวันที่ 28 ตุลาคม ราว 246 ล้านดอลลาร์ แต่ในทางกลับกัน วันที่ 29 ตุลาคม กลับมีกระแสเงินไหลออกสุทธิราว 81.4 ล้านดอลลาร์ วันที่ 30 ตุลาคม ราว 184.2 ล้านดอลลาร์ และวันที่ 31 ตุลาคม ราว 98.2 ล้านดอลลาร์ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมการหมุนเงินระยะสั้นของนักลงทุนสถาบัน แต่ไม่ได้ลดความเชื่อมั่นในระยะยาว หากแรงขายปลายเดือนเป็นเพียงการปรับพอร์ตปกติ มีโอกาสสูงที่ต้นเดือนพฤศจิกายนจะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาใหม่ โดยเฉพาะในกองทุนขนาดใหญ่เช่น BlackRock และ Fidelity ที่ยังถือสัดส่วนเงินทุนมหาศาล

ข่าวสารสำคัญ:

SBF และทีมกฎหมายของเขาได้เผยเอกสารและแถลงการณ์ที่อ้างว่า FTX มีสินทรัพย์สูงกว่าหนี้สินในช่วงเวลาที่ล้มละลายจริง ๆ โดยกล่าวว่าเป็นปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วคราวมากกว่าการล้มละลาย

ธนาคาร Nordic ที่เคยปฏิเสธคริปโต กำลังจะเสนอ Bitcoin ETP ในไม่ช้า

ซีอีโอคริปโทเคอร์เรนซีเสียชีวิตในเรือนจำตุรกี ขณะที่ทนายความของเหยื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวน

Tether ทำไร 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2025 แข่งขันกับธนาคารใหญ่ๆ

ที่มา:

https://cryptoslate.com/us-china-trade-deal-marks-the-biggest-de-escalation-yet-for-global-markets

https://bravenewcoin.com/insights/us-china-trade-deal-could-signal-shift-for-global-markets-and-crypto

https://www.coindesk.com/markets/2025/11/02/aster-zooms-20-as-binance-s-cz-purchases-2m-tokens

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้  

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้  


ขอบคุณที่ติดตามครับ
Thanakarn

ดาวน์โหลดแอพลิเคชัน Maxbit ได้ที่

appstoregoogleplay

ลงทะเบียนอย่างปลอดภัยกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต

ลงทะเบียน
starstar