LINK คือเหรียญอะไร

Chainlink (LINK) คือเครือข่าย Oracle แบบกระจายศูนย์ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมต่อ smart contracts กับข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริง Chainlink ได้รับการพัฒนาโดย Sergey Nazarov โดยมี Steve Ellis เป็นอีกผู้ร่วมก่อตั้ง ได้จัด ICO ในเดือนกันยายน 2017 โดยระดมทุนได้ 32 ล้านดอลลาร์ด้วย LINK tokens1 พันล้านเหรียญ

LINK ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีดั้งเดิมใน Chainlink ของเครือข่าย Oracle แบบกระจายอำนาจของ Chainlink ที่ใช้เพื่อการชำระเงินให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย เนื่องจากเครือข่าย Chainlink นั้นเป็นระบบชื่อเสียง ผู้ให้บริการเครือข่ายที่สามารถจัดหา LINK จำนวนมากได้จะได้รับรางวัลเป็นสัญญาขนาดใหญ่ ในขณะที่ความล้มเหลวในการส่งมอบข้อมูลที่ถูกต้องส่งผลให้มีการลดโทเค็นลง นักพัฒนาอธิบายว่า LINK เป็น “ERC20 token ที่มี ERC223 เพิ่มเติม ‘การโอนและการโทร’ ฟังก์ชันการทำงานที่ใช้ในการถ่ายโอน (address, uint256, bytes) ทำให้สามารถรับและประมวลผลโทเค็นด้วยสัญญาภายในธุรกรรมเดียว” โดยในปี 2017 LINK ICO มูลค่า 32 ล้านดอลลาร์ มีการส่งมอบ LINK จำนวน 32 เปอร์เซ็นต์ไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อกระตุ้นระบบนิเวศเศรษฐกิจ และ 30 เปอร์เซ็นต์ยังอยู่ใน Chainlink เพื่อใช้ในการพัฒนา (35 เปอร์เซ็นต์ถูกขายในการขายโทเค็นสาธารณะ)

Native Blockchain:

Chainlink ไม่มี Blockchain เป็นของตัวเอง แต่ว่าเป็นเครือข่าย ORACLE แบบกระจายศูนย์ที่อยู่บนเชนของ Ethereum อีกทีหนึ่ง โดย LINK สร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้ Smart Contract สามารถทำงานรวมกับข้อมูลภายนอก Blockchain ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งข้อมูล real-time, APIs, หรือระบบชำระเงินต่าง ๆ

Consensus Protocol:

เนื่องจากการที่ Chainlink ตั้งอยู่บน Ethereum blockchain มันจึงใช้ระบบฉันทามติแบบเดียวกันกับเชนที่มันตั้งอยู่ ซึ่งก็แปลว่าการอัพเดทของ ETH เป็นเวอร์ชั่น 2.0 ที่จะเปลี่ยนระบบ Consensus ให้กลายเป็น Proof-of-Stake ก็จะกลายมาเป็นระบบมาตรฐานของ LINK ด้วยเช่นกัน

Trilemma (Security, Speed, Scalability):

Security: Chainlink เน้นจุดยืนของตัวเองไปที่ความปลอดภัย เพราะว่ามันทำมาเพื่อจัดการการใช้งานข้อมูลภายนอกร่วมกับข้อมูลในบล็อคเชน โดยมีการใช้โทเคน LINK ในการ Staking สำหรับผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้ให้บริการ ORACLE เพื่อที่จะได้มีหลักประกัน และเพิ่มการมีส่วนได้ส่วนเสียในการให้บริการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

Speed: ในฐานะเครือข่าย ORACLE ตัวระบบของ Chainlink นั้นมีความเร็วในการทำงานที่ผูกกับเครือข่าย Ethereum ณ เวลานั้น ๆ อย่างไรก็ดี ด้วยธรรมชาติของการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ทำให้ความเร็วในการจัดเก็บ และเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บไว้ มักจะรวดเร็วกว่าธุรกรรมบนบล๊อคเชนทั่วไป

Scalability: LINK มีการพัฒนามากมายที่มุ่งไปที่การช่วยแก้ปัญหาเรื่อง scalability ซึ่งหนึ่งใน solution ที่ทำออกมาแล้วใช้งานได้ดี คือระบบการรายงานปัญหาที่เกิดขึ้นบน Layer 2 แบบ off-chain ซึ่งไวกว่าและสามารถตอบสนองต่อปัญหาได้ง่ายกว่า

Founder / Date Founded:

Sergey Nazarov และ Steve Ellis ร่วมกันก่อตั้ง Chainlink ขึ้นมา และมีการระดมทุนพัฒนาผ่านการ ICO เมื่อปี 2017

Objective / Use Case:

เป้าหมายของ Chainlink คือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อมูลในโลกภายนอกกับข้อมูลบนระบบ blockchain ซึ่งจะทำให้ smart contract สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลนอกบล็อคเชนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการที่จะทำให้ smart contract สามารถนำไปใช้งานจริงในเรื่องต่าง ๆ ได้ จำเป็นต้องมีแหล่งข้อมูลภายนอกที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัย ถูกต้อง

Total supply/ Limit or Unlimited:

Chainlink มีการตั้งอุปทานสูงสุดเอาไว้ที่ 1 พันล้าน LINK token

Supply Deflation:

Chainlink ไม่มีการวางระบบการควบคุมปริมาณโทเคน หรือการเผาที่ตายตัว อย่างไรก็ดี ตัวโทเคน LINK สามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันในการทำธุรกรรมบนระบบของ LINK ได้ และสามารถนำไปล็อคไว้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ เพื่อให้ส่งผลต่อปริมาณโดยรวมของโทเคนที่หมุนเวียนอยู่ในระบบได้

แหล่งที่มา:
Chainlink whitepaper
Chain.link/
Docs.chain.link/
Ethereum.org
Coinmarketcap

บทความนี้ให้ความเข้าใจระดับเริ่มต้นเกี่ยวกับ Chainlink และโทเค็น LINK เนื่องจากธรรมชาติของ crypto มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่สนใจจึงจำเป็นต้องติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงล่าสุด