BCH คือเหรียญอะไร

BCH

Bitcoin Cash (BCH) คือ hard fork (การอัปเดตที่เปิดใช้งานโดยชุมชนสำหรับโปรโตคอลหรือโค๊ด) ของ Bitcoin blockchain แบบดั้งเดิม fork ของบิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2017 โดยมีจุดประสงค์เพื่ออัปเดตขนาดบล็อกเป็น 8MB เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018 BCH ถูก hard fork เป็นครั้งที่สองและแยกออกเป็น Bitcoin SV (Satoshi’s Vision) และ Bitcoin ABC Bitcoin ABC กลายเป็นเชนที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของ BCH เนื่องจากมีแฮชพาวเวอร์และสถานีเชื่อมโยงส่วนใหญ่ในเครือข่าย

Bitcoin Cash ลดลงครึ่งหนึ่งล่าสุดในวันที่ 8 เมษายน 2020 เมื่อ block reward ลดลงเหลือ 6.25 แทนที่จะเป็น 12.5

Native Blockchain:

BCH หรือ Bitcoin Cash ทำงานบนบล็อคเชนของตนเอง ซึ่งเป็นเชนที่ fork ออกมาจากของ Bitcoin ที่เป็นต้นกำเนิดของมัน โดยที่การแยกตัวออกมาจาก Bitcoin blockchain นั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุผลข้อกังขาในเรื่องการขยายขอบเขตการใช้งานและค่าธรรมเนียมของบล็อคเชนตัวเดิม (BTC)

Consensus Protocol:

เช่นเดียวกันกับ Bitcoin ตัวเอง BCH เองก็ใช้ระบบ Concensus แบบ Proof-of-Work เหมือนกัน โดยที่กลไลของ Bitcoin Cash นั้นจะต้องพึ่งพาผู้ใช้งานและผู้มีส่วนร่วม ในการตั้งตัวเป็นผู้ที่ประมวลและจัดเก็บข้อมูล (ที่เรียกว่าการเป็นผู้ขุดเหรียญ) เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบล็อคเชนนี้

Trilemma (Security, Speed, Scalability):

Security: ด้วยกลไกฉันทามติที่ทำงานแบบ Proof-of-Work ทำให้ BCH มีความปลอดภัยใกล้เคียงกับ Bitcoin อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อถกเถียงเมื่อเปรียบเทียบกับ Bitcoin เนื่องจากอัตราการสร้างแฮชที่น้อยกว่า

Speed: BCH เพิ่มขนาดบล็อคของ Bitcoin จากจำกัดไว้ที่ 1 MB เป็น 8 MB และสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก เพื่อทำให้เกิดการประมวลผลธุรกรรมต่อบล็อกมากขึ้น และทำให้มีการยืนยันการทำธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้น

Scalability: แรงจูงใจหลักในการสร้าง BCH คือความสามารถในการเพิ่มขนาดบล็อกและแก้ปัญหาด้าน scaling ของ BTC เพื่อจะทำให้การประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง

Founder / Date Founded:

Bitcoin Cash เกิดจากการ hard fork ของ Bitcoin ในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดจากการสร้างของบุคคลคนเดียว แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin และนักพัฒนาและนักขุดหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับทิศทางที่ Bitcoin จึงทำการปรับขนาดเพื่อแก้ไขปัญหา

Objective / Use Case:

วัตถุประสงค์หลักที่อยู่ของ BCH คือการแก้ปัญหาด้านความยืดหยุ่นของ Bitcoin โดยการเพิ่มขนาดบล็อก ซึ่งนำไปสู่การทำธุรกรรมที่รวดเร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมที่ลดลง

Total supply/ Limit or Unlimited:

BCH มีการตั้งจำนวนเหรียญทั้งหมดไว้ เท่ากันกับ Bitcoin ที่มีการจำกัดทรัพยากรณ์ไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ และยังมีการลดอัตราเหรียญที่ได้จากการขุดในรูปแบบเดียวกับการ halving ของ Bitcoin อีกด้วย

Supply Deflation:

Bitcoin Cash ใช้กระบวนการปรับมูลค่าเหรียญในรูปแบบเดียวกันกับการ halving ของ BTC คือโดยเฉลี่ย ทุก ๆ 4 ปี จะมีการปรับลดรางวัลที่ได้จากการขุดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะชะลอการไหลเข้าของ BCH ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ และสามารถช่วยให้มันรักษาระดับราคา รวมถึงช่วยไม่ให้เกิดมูลค่าที่เฟ้อได้

บทสรุปนี้นำเสนอมุมมองเบื้องต้นเกี่ยวกับ Bitcoin Cash เนื่องจากธรรมชาติของภูมิทัศน์สกุลเงินดิจิทัลมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่สนใจควรติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดอยู่เสมอ

แหล่งที่มา:
The Bitcoin Standard
Whitepaper
Coinmarketcap
Mastering Bitcoin 2nd Edition