Weekly Recap Research
What will Bitcoin price be by the end of 2025
[https://elonmoney.substack.com/p/what-will-btcs-price-be-by-the-end]
การคาดการณ์ราคาของ Bitcoin (BTC) ภายในสิ้นปี 2025 ชี้ว่าอาจทะยานขึ้นแตะระดับ 210,000–230,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอิงจากตัวชี้วัดสำคัญที่ยังสะท้อนว่า BTC อยู่ในช่วงกลางของวัฏจักรขาขึ้น และยังไม่ถึงจุดสูงสุดของรอบนี้
หนึ่งในตัวชี้วัดหลักคือ MVRV Z-Score ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่า 7 แสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดของ Bitcoin ยังสูงกว่าราคาทุนเฉลี่ย (Realized Value) และยังมีช่องว่างสำหรับการเติบโตเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน Energy Value Oscillator ที่วัดความสัมพันธ์ระหว่างราคากับต้นทุนการขุด คาดว่าจะทะลุ +100% บ่งชี้ว่าราคาปัจจุบันยังจูงใจสำหรับนักลงทุนเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิต
ดัชนีความร้อนของตลาดอย่าง Bitcoin Heater คาดว่าจะอยู่แถวระดับ 1.0 ซึ่งสะท้อนว่าตลาดยังไม่ร้อนแรงเกินไป และยังมีพื้นที่สำหรับการปรับตัวขึ้น ด้าน Volume Summer หรือปริมาณการซื้อขายในช่วงฤดูร้อนก็อยู่ในระดับคึกคัก ชี้ให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สุดท้าย ตัวชี้วัด Open Interest ต่อมูลค่าตลาดรวม (OI/Mcap) ที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นเชิงบวกจากนักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ที่ยังคงวางเดิมพันระยะยาวต่อแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin ในรอบนี้
Mindshare
จากการวิเคราะห์ข้อมูล Mindshare ตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนระดับความสนใจและการพูดถึงของชุมชนคริปโต พบว่าโปรเจกต์ในกลุ่ม Layer 1 (L1) ยังคงได้รับความสนใจสูงสุด ด้วยสัดส่วนถึง 21.0% สะท้อนบทบาทที่สำคัญของโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่ยังคงเป็นแกนหลักของตลาด
รองลงมาคือกลุ่มที่ถูกจัดว่าอยู่ใน “Sweet-spot” ซึ่งมีสัดส่วนการพูดถึงที่ 12.2% บ่งชี้ว่ามีบาง narrative หรือสินทรัพย์ที่กำลังอยู่ในจุดที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ ในขณะที่หมวด Derivatives คิดเป็น 7.2% สะท้อนถึงความสนใจในการใช้งานด้านการเก็งกำไรหรือจัดการความเสี่ยง
กลุ่มอื่น ๆ อย่าง Social-Fi (6.1%), Data (5.8%) และ NFT (5.4%) ยังคงมีบทบาทในแง่การรับรู้และการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ส่วน Launchpads (4.3%) และ ICM (3.5%) ก็ยังได้รับความสนใจในระดับหนึ่ง ภาพรวมสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของความสนใจในตลาดคริปโต ขณะที่ Layer 1 ยังคงเป็นศูนย์กลางหลักที่นักลงทุนและนักพัฒนายังคงให้ความสำคัญสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว
Top Net flow
[https://app.artemis.xyz/flows]
ในช่วงที่ผ่านมา Injective กลายเป็นเครือข่ายที่ดึงดูดเงินทุนสุทธิได้มากที่สุดประมาณ 120 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Arbitrum และ Polygon PoS ที่ยังคงได้รับความสนใจจากกิจกรรมในระบบ DeFi และโปรแกรม Airdrop ที่ต่อเนื่อง ส่วน Solana และ OP Mainnet เริ่มเห็นการฟื้นตัวของปริมาณการซื้อขายบน DEX ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ในขณะที่เครือข่ายอย่าง Hyperliquid, Avalanche, Mantle และ Base ก็ติดอันดับเชนที่มี Net Inflow สะท้อนความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเชนทางเลือกเหล่านี้
ในทางกลับกัน Ethereum เผชิญกระแสเงินทุนไหลออกสูงสุดกว่า 200 ล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุหลักจากค่าธรรมเนียมที่ยังคงสูง และการที่นักลงทุนหันไปหาผลตอบแทนบนเชนใหม่ เช่น Berachain, StarkNet, Sui, Sei และ Blast ส่วน Bitcoin มีเงินไหลออกเพียงเล็กน้อย และโดยรวมยังคงทรงตัว
ภาพรวมสะท้อนการกลับมาของกลยุทธ์ “Rotation Trade” ที่นักลงทุนเริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ จาก Narrative ที่แตกต่างและผลตอบแทนที่มากขึ้น ขณะเดียวกันเชนขนาดใหญ่จำเป็นต้องเร่งปรับลดต้นทุนและยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานอย่างจริงจัง หากไม่ต้องการเสียพื้นที่ในตลาดให้กับเชนรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์กว่า
Fear & Greed Index
[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
ดัชนี Crypto Fear & Greed ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 70 จุดเมื่อวันที่ 25 พ.ค. สะท้อนความรู้สึก “Greed” ที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เทียบกับ 70 จุดเมื่อวันก่อน และ 45 จุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจาก Bitcoin พุ่งทำสถิติใหม่ใกล้ $111,000 ก่อนจะปรับฐานลงมาปิดสัปดาห์บริเวณ $108,000 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้มีการล้างสถานะ short เกือบ $600 ล้านในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน กระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันยังคงแข็งแกร่ง โดย Spot Bitcoin ETF สหรัฐรับเงินไหลเข้าสุทธิ $934.8 ล้านในวันที่ 22 พ.ค. เพียงวันเดียว และรวมทั้งสัปดาห์อยู่ที่ $2.75 พันล้าน นำโดย BlackRock IBIT
Bitcoin ETF Flow
ในช่วงวันที่ 19–25 พฤษภาคม 2025 กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มียอดเงินไหลเข้าสะสมกว่า 2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยมีกองทุน IBIT ของ BlackRock เป็นผู้นำ โดยเฉพาะวันที่ 22 พฤษภาคมที่สร้างสถิติใหม่ของกองทุนหลังเปิดตัว ด้วยเงินไหลเข้าสูงถึง 934.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเติบโตดังกล่าวสอดคล้องกับราคาของ Bitcoin ที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) ที่ 111,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันครบรอบ 15 ปีของ Bitcoin Pizza Day โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน ปัจจุบันนักวิเคราะห์หลายรายประเมินว่าราคาอาจแตะระดับ 135,000–180,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ จากแรงสนับสนุนของยอดเงินไหลเข้ารวมที่ทะลุ 43 พันล้านดอลลาร์ แม้ตลาดยังคงมีความผันผวนสูง แต่ทิศทางเงินทุนที่ยังคงหลั่งไหลเข้าจากผู้ให้บริการ ETF รายใหญ่ต่างๆ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นระยะยาวของนักลงทุนต่อ Bitcoin
Ethereum ETF Flow
ในช่วงวันที่ 19–23 พฤษภาคม 2025 กองทุน Spot Ether ETF ของสหรัฐฯ สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่รวมประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย BlackRock (ETHA) ครองบทบาทผู้นำ ด้วยกระแสเงินไหลเข้า 13.7 ล้านดอลลาร์ในวันจันทร์, 45 ล้านดอลลาร์ในวันอังคาร และพุ่งถึง 52.8 ล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ ขณะที่กองทุนกลุ่มนี้สร้างสถิติใหม่ของการมีเงินไหลเข้าสุทธิรายวันสูงสุดที่ 110.5 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 22 พฤษภาคม ยอดรวมเงินลงทุนสุทธินับตั้งแต่เปิดตัวทะลุ 2.8 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะยังมีแรงขายต่อเนื่องจากฝั่ง Grayscale อยู่ก็ตาม
ข่าวสารสำคัญ
วาฬบน Hyperliquid พลิกสถานะ Bitcoin $1 พันล้าน จาก Long เป็น Short ส่งสัญญาณ Bearish
WSJ รายงาน: ธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ หลายแห่ง ‘เริ่มเจรจา’ ตั้งกิจการ Stablecoin ร่วมกัน
Justin Sun ‘ปกป้อง’ ทรัมป์หลังร่วม ‘ดินเนอร์ประธานาธิบดี’, ชี้ Memecoins ‘ก็มีข้อดี’
ที่มา:
https://cointelegraph.com/news/bitcoin-etfs-weekly-inflows-significant-price-sits-108k
https://cointelegraph.com/news/bitcoin-etfs-weekly-inflows-significant-price-sits-108k
https://news.bitcoin.com/blackrocks-ibit-and-etha-lead-fridays-crypto-etf-inflows
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat