
Weekly Recap Research
Ethereum as a Corporate Treasury Asset

[https://www.galaxy.com/insights/research/beyond-btc-ethereum-as-a-corporate-treasury-asset]
การนำ Ethereum (ETH) มาใช้เป็นสินทรัพย์ในคลังองค์กร (Corporate Treasury Asset) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากการถือครอง Bitcoin โดยสิ้นเชิง
ด้วยการมุ่งสร้างผลตอบแทนเชิงรุก (Active Yield) ผ่านกลไก Staking และการใช้งานบน DeFi หลายบริษัทที่เลือกใช้กลยุทธ์นี้ตั้งเป้าผลตอบแทนในช่วง 3% ถึง 14% ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสอดรับกับข้อมูลที่สะท้อนว่ากิจกรรมการ Stake ETH ขยายตัวอย่างชัดเจน โดยมีสัดส่วนใกล้ 30% ของอุปทานทั้งหมด ณ กลางปี 2025 แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อศักยภาพในการสร้างรายได้ของเครือข่าย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ยังมีความเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการลดทอนมูลค่าหุ้นเดิม (Share Dilution) เนื่องจากเงินทุนที่นำมาใช้ซื้อสินทรัพย์มาจากการออกหุ้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการด้านการบริหารการเงินองค์กร ที่ปรับให้สินทรัพย์ดิจิทัลก้าวสู่การเป็นแหล่งทุนสร้างรายได้ ควบคู่ไปกับการเสริมเสถียรภาพและความปลอดภัยของเครือข่าย Ethereum
SharpLink Gaming

[https://x.com/SharpLinkGaming/status/1956392966312103975/photo/1]
บริษัท SharpLink Gaming (NASDAQ: SBET) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการพนันกีฬาที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดเผยว่าบริษัทถือครอง Ethereum (ETH) รวมกว่า 728,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการเผยแพร่กราฟ “SharpLink ETH Portfolio Tracker” ซึ่งแสดงข้อมูลการสะสม ETH ของบริษัทตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนสิงหาคม พร้อมรายละเอียดการเข้าซื้อครั้งสำคัญและการเคลื่อนไหวของราคา ETH ที่แม้จะมีความผันผวนแต่โดยรวมอยู่ในทิศทางขาขึ้น
เดิม SharpLink Gaming มุ่งเน้นธุรกิจเทคโนโลยีการพนันกีฬาและ affiliate marketing ก่อนประกาศเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในเดือนมิถุนายน 2025 ด้วยการนำ ETH มาเป็นสินทรัพย์หลักใน treasury ตามแนวทางของ MicroStrategy ที่ถือครอง Bitcoin โดยบริษัทได้ระดมทุนจากการขายหุ้น ทั้งในรูปแบบ ATM offerings และ registered direct offerings เพื่อนำเงินไปซื้อ ETH เพิ่มเติม
ทั้งนี้ SharpLink ระบุว่า Ethereum คือ “สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด” และเป็น “core commodity ของระบบการเงินยุคใหม่” โดยบัญชี X ของบริษัทมักเผยแพร่เนื้อหาโปรโมต ETH อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอจาก Co-CEO ที่อธิบายเหตุผลการลงทุน หรือข้อความเชิงบวกอย่าง “ETH looks good here” เพื่อสร้างแรงหนุนด้าน sentiment
Top Net flow

[https://app.artemis.xyz/flows]
ภาพรวมกระแสเงินทุนบนเครือข่าย (On-Chain) ระหว่างวันที่ 11–17 ส.ค. 2568 จากข้อมูล Top Net Flows ของ Artemis พบว่า Arbitrum มีเงินทุนไหลเข้าสูงสุดราว 120 ล้านดอลลาร์ จากแรงหนุนการขยายตัวของ Orbit chains และการบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Robinhood ทำให้สถานะการเป็นผู้นำตลาด L2 ยิ่งเด่นชัด ขณะที่ Base มีเงินทุนไหลเข้า 90 ล้านดอลลาร์ จากการเติบโตของมูลค่ารวมที่ล็อกไว้ใน DeFi (TVL) และการรีแบรนด์แอปพลิเคชัน ในทางตรงกันข้าม Ethereum และ Linea มีกระแสเงินทุนไหลออก 140 ล้านและ 90 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ สะท้อนถึงการหมุนเวียนเงินทุนท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยมหภาค เช่น สัญญาณผ่อนคลายนโยบายจาก Fed โดยในเชิงโครงสร้างตลาด การหมุนเวียนดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับการปรับฐานจากการหมดอายุของ Options และการปลดล็อกเหรียญ (SUI/OP) ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพ (Efficient Market Hypothesis) นอกจากนี้ Solana และ Polygon ยังได้รับเงินทุนไหลเข้า จากกระแส Memecoin และการพัฒนาโครงสร้างเครือข่ายเพื่อรองรับการขยายตัว (Scalability) หากปัจจัยมหภาคปรับตัวดีขึ้น กระแสเงินทุนเหล่านี้อาจเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะตลาดกระทิง (bull run) ได้
Fear & Greed Index

[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
โดยดัชนี Fear & Greed ระหว่างวันที่ 11–17 สิงหาคม 2568 เคลื่อนไหวในโซน Greed (64–70) สะท้อนถึงมุมมองบวกที่ต่อเนื่องจากกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ขนาดใหญ่และราคา Bitcoin ที่มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม ดัชนีชะลอลงเล็กน้อยจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคและแรงกดดันจากการครบกำหนดออปชัน
การวิเคราะห์ชี้ว่าดัชนีปรับตัวตามสมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพ (Efficient Market Hypothesis) โดยสัญญาณผ่อนคลายนโยบายจาก Fed และการอนุมัติต่างๆ ของ SEC ได้กระตุ้นให้ระดับ Greed ขึ้นไปสูงสุดที่ 70 ในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ข่าวการขยายกำแพงภาษีได้สร้างความกังวล (Fear) ในช่วงปลายสัปดาห์
การเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับสมมติฐานตลาดที่มีประสิทธิภาพ (Efficient Market Hypothesis) โดยสัญญาณผ่อนคลายนโยบายจาก Fed และความคืบหน้าในการอนุมัติสินทรัพย์จาก SEC เป็นแรงหนุนให้ดัชนีปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 70 ในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ข่าวการขยายมาตรการภาษีกลับสร้างบรรยากาศกังวลและกดดัน (Fear) ดัชนีในช่วงปลายสัปดาห์
นอกจากนี้ ข่าวการเติบโตของ DeFi บนเครือข่าย Solana และ Arbitrum รวมถึงการปรับตัวขึ้นแรงของ memecoin ยังช่วยหนุนโมเมนตัมของตลาด แต่แรงขายทำกำไรที่ตามมาก็ฉุดให้ดัชนีลดลงจาก 70 มาปิดที่ 64 โดยรวมภาพยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาด (Market Resilience) แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าการปรับฐานระยะสั้นอาจเกิดขึ้น หาก Fed ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงสู่โซน Neutral ได้เช่นกัน
Bitcoin ETF Flow

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (11–15 ส.ค. 2568) ตลาด Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีความผันผวนของกระแสเงินเข้าออก โดยภาพรวมมียอดสุทธิเป็นบวกประมาณ 548 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เงินทุนส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่กองทุน IBIT ของ BlackRock ที่ +888 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่กองทุน ARKB, FBTC และ GBTC มียอดไหลออกสุทธิ โดยราคา BTC ขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนอ่อนตัวลงหลังการประกาศตัวเลข PPI ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้มุมมองการลดดอกเบี้ยถูกกดดันและเกิดแรงขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์ นอกจากนี้ ความคึกคักของ Spot ETH ETF ยังนำไปสู่การโรเตชันบางส่วนจากกองทุน BTC ขนาดรอง ภาพรวมสะท้อนว่าสถาบันยังคงเทน้ำหนักไปที่กองทุนผู้นำอย่าง IBIT ขณะที่กองทุนอื่นเผชิญแรงสลับพอร์ตตามปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและสภาพคล่องระหว่างสินทรัพย์
Ethereum ETF Flow

สัปดาห์ที่ผ่านมา (11–15 ส.ค. 2568) ตลาด Spot Ethereum ETF ในสหรัฐฯ มียอดเงินไหลเข้าสุทธิรวมประมาณ 2.87 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เริ่มซื้อขาย โดยแรงซื้อหลักกระจุกตัวอยู่ในกองทุนขนาดใหญ่ต่อเนื่องหลายวัน โดยเฉพาะ BlackRock’s ETHA ที่มียอดไหลเข้า 2.40 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นราว 84% ของ inflows รวม ขณะที่ Fidelity’s FETH บวกสุทธิ 334 ล้านดอลลาร์ ส่วนกองทุนอื่น ๆ มียอดบวกเล็กน้อย แม้บางกองทุนพลิกเป็นลบในวันศุกร์ ภาพรวมสะท้อนเม็ดเงินสถาบันที่ไหลเข้าสู่กองทุนที่มีสภาพคล่องสูงและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้
ข่าวสารสำคัญ
OKX เผาทำลายโทเคน OKB มูลค่ากว่า 632 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเผารายไตรมาสครั้งที่ 24
BTCS บริษัทจัดการสินทรัพย์คลัง เผยการถือครอง Ethereum พุ่งแตะ 70,140 ETH มูลค่ากว่า 321 ล้านดอลลาร์
ตลาดคริปโตปั่นป่วนการชำระบัญชีพุ่งเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงเกินคาด
Bitcoin ทะลุ 124,000 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่
ที่มา:
https://www.nasdaq.com/market-activity/stocks/sbet
https://re7research.substack.com/p/the-weekly-12nd-august-2025?
https://www.galaxy.com/insights/research/beyond-btc-ethereum-as-a-corporate-treasury-asset
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat