
Weekly Recap Research
New narratives Tokenized Pokemon TCG Volumes

[https://viktordefi.com/p/new-narratives-everyday?utm_campaign=]
โปเกมอนเทรดดิ้งการ์ด (Pokémon TCG) ถูกพลิกโฉมจากของเล่นในความทรงจำสู่สินทรัพย์ดิจิทัล (Tokenized Asset) บนบล็อกเชน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแส “Real World Asset (RWA)” ที่นำสินทรัพย์จากโลกจริงเข้าสู่ระบบการเงินดิจิทัลเพื่อสร้างสภาพคล่องระดับโลก (Global Liquidity) โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายโปเกมอนการ์ดในรูปแบบโทเคนพุ่งขึ้นถึง 124 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าสินทรัพย์ RWA แบบดั้งเดิมอย่างหุ้น Tokenized ด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความสนใจของตลาดที่มีต่อสินทรัพย์เชิงวัฒนธรรม (Cultural Assets) อย่างชัดเจน ถือเป็นการเดินทางจาก “ความทรงจำวัยเด็ก” (Nostalgia) มาสู่ “ระบบการเงินยุคใหม่” (Financialization) ที่ผสานวัฒนธรรมกับนวัตกรรม ทำให้สินทรัพย์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงของสะสมอีกต่อไป แต่สามารถซื้อขายได้ทันทีบนเชน มีสภาพคล่องสูง และเข้าถึงได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ โปเกมอนการ์ดแบบ Tokenized จึงเปรียบเสมือน “ประตูบานแรก” (Gateway) ที่เปิดโอกาสให้คนนอกวงการคริปโตเข้ามาทำความเข้าใจและทดลองลงทุนในสินทรัพย์ RWA ได้สะดวกขึ้น ก่อนจะต่อยอดไปสู่สินทรัพย์ที่มีความซับซ้อนกว่า เช่น พันธบัตรหรืออสังหาริมทรัพย์
กระแส Treasury Companies: Ethereum

[https://blockworks.com/analytics/treasury-companies/ethereum-treasury-companies]
กระแสนี้เกิดจากบริษัทมหาชน (โดยเฉพาะในสหรัฐฯ) ที่เริ่มเดินตามรอย MicroStrategy ซึ่งถือครอง BTC แต่หันมาใช้ ETH แทน เนื่องจากสามารถนำไป staking เพื่อรับผลตอบแทนราว 3–5% ต่อปี ขณะเดียวกัน ETH ก็กำลังขยายตัวต่อเนื่องหลังการอัปเกรดเครือข่าย โดย BMNR และ SBET เป็นผู้บุกเบิกกระแสนี้ โดย BMNR ครอง ETH มากที่สุดที่ราว 1.8 ล้าน ETH และมีแผนจะเพิ่มการถือครองเพื่อให้ได้ 5% ของ ETH Supply นักวิเคราะห์จาก Galaxy และ Standard Chartered มองว่ากระแสนี้เพิ่งเริ่มต้น และอาจเป็นแรงขับเคลื่อนให้ราคา ETH มีโอกาสพุ่งขึ้นถึง 10 เท่าในอนาคต หากบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงอยู่ที่ความผันผวนของราคา ETH และความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจขาย ETH ออกมาเพื่อป้องกันผลกระทบต่อราคาหุ้นของตนเอง (Dilution)
Top Net flow

[https://app.artemis.xyz/flows]
ภาพรวมกระแสเงินบนเชน (1–7 ก.ย. 2568) แสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนเงินทุนกลับเข้าสู่ Ethereum อย่างเด่นชัด โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิราว +550 ล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งและแซงสินทรัพย์อื่น ๆ ขาดลอย Ethereum ครองผู้นำ capital flows รายสัปดาห์ แม้ต้องเผชิญ ETF Outflows ของ ETH ที่ -854 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2–5 ก.ย. ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนสถาบันเลือกสะสมบนเชนโดยตรง แม้ ETF จะชะลอตัวจากแรงขายปลายไตรมาส แต่สภาพคล่องบนเมนเน็ต Ethereum ยังคงแข็งแรง โดยเฉพาะจาก Bridge Flows และ DeFi Activity ที่ขยายตัวมากขึ้น ส่วนด้านเงินทุนไหลออก Base ถูกเทขายมากที่สุดที่ -450 ล้านดอลลาร์ แสดงถึงการถอนทุนจาก L2 ยอดนิยมหลังช่วงฟาร์ม Yield สิ้นสุดและการหมุนกลับสู่ L1 หลัก ขณะที่ Polygon PoS และ OP Mainnet มี Outflows -300 ล้านดอลลาร์ และ -250 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ จากการปรับพอร์ตและลดการเปิดรับโปรโตคอลทดลอง ท่ามกลางความเสี่ยง Network Congestion ในช่วงปลายสัปดาห์ Arbitrum และ Avalanche C-Chain ก็เผชิญ Outflows -200 ล้านดอลลาร์ และ -150 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความระมัดระวังต่อ L2 Scalability ในภาวะที่ราคา ETH ทรงตัวราว 4,300 ดอลลาร์ท่ามกลางความผันผวนสูง
Fear & Greed Index

[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
Fear & Greed (1–7 ก.ย. 2568) ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Neutral ราว 44–51 จุด โดยส่วนใหญ่ยืนใกล้ระดับ 48–51 สะท้อนบรรยากาศ “ระมัดระวังแต่ไม่ตื่นตระหนก” ของนักลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยมหภาคและการหมุนเวียนเงินทุนระหว่างสินทรัพย์คริปโต โดยแรงกดดันหลักมาจาก Ethereum ETF ที่มียอดไหลออกสุทธิสูงถึง -$787.6 ล้าน ในช่วง 4 วันแรกของเดือน (ตามรายงานจาก AInvest และ Tyler Hill Investing) ซึ่งสวนทางกับ Bitcoin ETF ที่กลับมาฟื้นตัวด้วยเงินไหลเข้าสุทธิ +$250.3 ล้าน การไหลเข้าของกองทุน BTC ช่วยหนุนให้ราคา Bitcoin ดีดเหนือ $112,000 ในวันศุกร์ (7 ก.ย.) หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาด หนุนมุมมองว่า Fed อาจลดดอกเบี้ย ขณะที่ราคา ETH ยังคงทรงตัวแถว $4,300 สะท้อนแรงกดดันเชิงลบจากเม็ดเงินที่ไหลออกไปยัง BTC หาก ETH ETF สามารถหยุดกระแสไหลออกได้ และ BTC รักษาระดับราคาเหนือ $110k–$112k ได้ต่อ บรรยากาศ Neutral มีแนวโน้มดำเนินต่อไปในสัปดาห์หน้า ซึ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการหมุนเวียนเงินทุนระหว่าง BTC และ ETH มากกว่าการปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาด
Bitcoin ETF Flow

ช่วง 2–5 ก.ย. 2025 กระแสเงินของกองทุน Spot Bitcoin ETF แกว่งตัวแรง โดยวันที่ 2–3 ก.ย. ฟื้นตัวรวม +$633.3 ล้าน (+$332.8 ล้าน และ +$300.5 ล้าน) นำโดย IBIT +$72.9 ล้านและ +$289.8 ล้าน, FBTC +$132.7 ล้านและ +$9.8 ล้าน ขณะที่ ARKB จาก +$71.9 ล้าน พลิกเป็น -$27.9 ล้าน ในวันที่ 3 แต่ยังได้ GBTC +$28.8 ล้านมาช่วยพยุง ทำให้ Breadth รวมยังเป็นบวก ส่วนวันที่ 4–5 ก.ย. กลับทิศเป็นเงินไหลออกต่อเนื่องรวม -$383.0 ล้าน (-$222.9 ล้าน และ -$160.1 ล้าน) โดยวันที่ 4 ก.ย. เป็นวันขายกว้าง: ARKB -$125.5 ล้าน, FBTC -$117.4 ล้าน, BITB -$66.4 ล้าน, GBTC -$22.4 ล้าน, BRRR -$3.2 ล้าน ขณะที่ IBIT ยังรับเงิน +$134.8 ล้าน ด้านวันที่ 5 ก.ย. แรงขายกระจุกตัวที่ IBIT -$63.2 ล้าน, BITB -$49.6 ล้าน, GBTC -$47.3m ล้าน ส่วน FBTC ไม่เปลี่ยนแปลง ภาพรวม 4 วันสุทธิ +$250.3 ล้าน แต่แทบทั้งหมดมาจาก IBIT +$434.3 ล้าน ขณะที่กองอื่นรวมกันติดลบ -$184 ล้าน (FBTC +$25.1 ล้าน, ARKB -$81.5 ล้าน, BITB -$76.9 ล้าน, GBTC -$40.9 ล้าน) สะท้อนว่าความเชื่อมั่นในช่วงต้นเดือนกันยายนยังคงพึ่งพา IBIT เป็นหลัก และหากแรงซื้อใน IBIT ชะลอตัว โมเมนตัมรวมอาจอ่อนแรงลงได้
Ethereum ETF Flow

ช่วง 2–5 ก.ย. 2025 กองทุน Spot Ethereum ETF เผชิญแรงขายต่อเนื่อง มียอดเงินไหลออกสุทธิราว -$854.1 ล้าน สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนสถาบันท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต โดยจุดที่โดดเด่นเชิงลบคือวันศุกร์ (5 ก.ย.) ที่มียอดไหลออกสูงสุด -$446.8m จากหลายกองทุน ขณะที่ ETHA (BlackRock) ยังรักษาเสถียรภาพได้บ้างด้วยการไหลเข้าเล็กน้อย +148m ในวันพุธ (4 ก.ย.) แต่ในวันอื่น ๆ ติดลบรวม -151.4m ส่วน FETH (Fidelity) มีความผันผวนชัดเจน โดยไหลออกหนัก -$99.2m ในวันอังคาร (2 ก.ย.) ก่อนจะฟื้นตัวกลับมา +65.8m อย่างไรก็ตาม breadth โดยรวมยังเป็นลบเกือบทุกวัน สรุปได้ว่าช่วงนี้เป็นการ consolidation หลังจากการรีบาวด์ก่อนหน้า โดยแรงขายอาจสะท้อนการปรับพอร์ตปลายไตรมาส หาก ETHA และ FETH สามารถกลับมาเป็นบวกได้ในสัปดาห์หน้า โมเมนตัมของ ETH ETF อาจเริ่มฟื้นตัว โดยรวมยังต้องติดตามความเคลื่อนไหวของ BlackRock และ Fidelity อย่างใกล้ชิด
ข่าวสารสำคัญ
รายได้แพลตฟอร์ม Hyperliquid พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ สะท้อนการเติบโตของตลาด DEX
ปริมาณเทรดคริปโตบน CEX เดือนสิงหาคมพุ่งแตะ $1.86 ล้านล้าน ดันสถิติสูงสุดตั้งแต่มกราคม
Chainalysis เผยรายงานล่าสุด อินเดียครองอันดับ 1 ของโลกด้านการยอมรับคริปโตในระดับรากหญ้า
ที่มา:
https://elonmoney.substack.com/p/market-update-inflows-are-back-but
https://blockworks.com/analytics/treasury-companies/ethereum-treasury-companies
https://viktordefi.com/p/new-narratives-everyday?utm_campaign=
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat