Weekly Recap Research  12-18 May

Weekly Recap Research 

Sector Performance on Maxbit 

[https://docs.google.com/spreadsheets/d/1h_0eAW5PeD8pzlL7IHEVqiJOsAUxEJ-DiiWDkVo8y6w/edit?gid=591182299#gid=591182299]

ตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดคริปโทเคอร์เรนซีสะท้อนให้เห็นว่า Altcoins หลายกลุ่มเผชิญกับผลตอบแทนในแดนลบ อันเป็นผลจากความผันผวนของราคา Bitcoin ที่สวิงขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 107,000 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปรับฐานที่ราว 103,000 ดอลลาร์ แต่ยังคงทรงตัวในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กระแสเงินทุนส่วนใหญ่ยังคงไหลอยู่ในเหรียญขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูง เช่น BTC, ETH, XRP และ BNB ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์ม Maxbit มีเหรียญดิจิทัลหลากหลายครอบคลุมหลายเซกเตอร์ นักลงทุนสามารถพิจารณาเลือกลงทุนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ 

Index Performance Benchmark

[https://app.artemis.xyz/home]

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดั้งเดิมแสดงผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดย Robinhood (HOOD) ครองตำแหน่งผู้นำ ด้วยอัตราการเติบโตสูงถึง 213.8% จากการขยายบริการ crypto wallet และฟีเจอร์ DeFi ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งาน Gen Z ขณะที่ Bitcoin ฟื้นตัวโดดเด่น สร้างผลตอบแทน 58.1% จากกระแสเงินทุนสถาบันที่ไหลเข้าสู่กองทุน Spot ETF อย่างต่อเนื่อง 

ทองคำก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยให้ผลตอบแทน 33.1% จากแรงหนุนของความกังวลด้านเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงต้นปี ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช่น S&P500 และ QQQ ให้ผลตอบแทนเพียง 13.4% และ 15.8% ตามลำดับ ส่วน Coinbase (COIN) ปรับตัวขึ้น 27.7% หลังมีข่าวเตรียมเข้าดัชนี S&P500 อย่างเป็นทางการ 

ในทางกลับกัน สินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทกลับเผชิญแรงกดดัน โดยเฉพาะ Ethereum (-19.9%), DeFi (-31.9%) และดัชนี Outlands (-35.1%) สะท้อนถึงภาวะที่นักลงทุนยังคงเลือกเน้นถือครองสินทรัพย์คุณภาพ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงสูงในช่วงที่ผ่านมา 

Top Net flow 

[https://app.artemis.xyz/flows]

ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Polygon PoS ครองอันดับหนึ่งด้วยมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ถึงการแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญ POL และการเปิดใช้งาน Polygon 2.0 ที่กำลังจะขยายตัว ซึ่งมีแนวโน้มจะรวมสภาพคล่องจากหลายเชนใน CDK super-chain ขณะที่ Arbitrum ก็ได้รับแรงหนุนจากรอบจ่ายเงินจูงใจของ DAO ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้แทนและดันกิจกรรมบนเครือข่ายให้แตะระดับสูงสุดในไตรมาสแรก ด้าน Mantle ซึ่งเป็นหน้าใหม่ในกลุ่ม L2 ก็เริ่มมีทิศทางบวกหลังถูกระบุไว้ในโรดแมปของ Coinbase ซึ่งสะท้อนถึงการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นจาก CEX ต่อโครงสร้าง L2 แบบโมดูลาร์ 

ในทางกลับกัน Berachain กลับเผชิญกับกระแสเงินทุนไหลออกมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา โดยมีมูลค่ารวมกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึงการลดลงของผู้ใช้งานรายวันถึง 33% และยอดเงินทุนไหลออกรวมสะสมกว่า 300 ล้านดอลลาร์ แม้เชนอื่นอย่าง zkSync, Blast และ Solana จะมีการไหลออกเช่นกัน แต่ในระดับที่น้อยกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการสิ้นสุดของแคมเปญจูงใจผู้ใช้งาน และแรงจูงใจในการทำกำไรที่ลดลงในเชนซึ่งมีความเสี่ยงสูงและยังอยู่ในช่วงทดสอบ (beta-heavy chains) 

Fear & Greed Index 

[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]

ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ  เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน  

ดัชนี Fear & Greed พุ่งขึ้นแตะระดับ 74 จุด เพิ่มขึ้นจาก 70 จุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และห่างไกลจากระดับ 32 จุดในช่วงเดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนโหมดของตลาดจาก “Fear” เป็น “Greed” อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงเดือน ความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนี้ มาจากแรงหนุนหลักของการปรับตัวขึ้นของราคา Bitcoin ที่เคลื่อนไหวทะลุ $106,000 ก่อนปิดสัปดาห์ที่ราว $103,000 ประกอบกับการล้างสถานะ short มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ และกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุนคริปโตทั่วโลกอีกกว่า $882 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะ Spot-ETF ในสหรัฐฯ ที่ยังคงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน 

Bitcoin ETF Flow 

[https://farside.co.uk/btc/]

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 พ.ค. 2025) กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐมีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 608 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงทิศทางการลงทุนที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ IBIT ของ BlackRock ที่ได้รับเงินไหลเข้ามากที่สุดถึง 409.7 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 15 พ.ค. แม้จะมีแรงขายทำกำไรและกลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์จาก Fidelity (FBTC) และ ARK (ARKB) ส่งผลให้เกิดเงินไหลออกบางส่วน นักลงทุนยังคงให้ความสนใจ ETF ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า และลดสัดส่วนการถือครอง GBTC ของ Grayscale อย่างชัดเจน โดยภาพรวมยังแสดงถึงความเชื่อมั่นอย่างแข็งแกร่งของสถาบันต่อ Bitcoin ในช่วงระยะถัดไป 

Ethereum ETF Flow 

[https://farside.co.uk/eth/]

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 พ.ค. 2025) กองทุน Spot Ethereum ETF มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 43.7 ล้านดอลลาร์ โดยแรงซื้อหลักมาจากกองทุน BlackRock (ETHA) ที่วันที่ 14 พ.ค. มียอดซื้อสูงถึง 57.6 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุน Fidelity (FETH) กลับมีแรงขายสุทธิรวมกว่า 20.1 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วน Grayscale (ETHE, ETH) มีเงินไหลเข้าเล็กน้อยที่ 8.6 ล้านดอลลาร์โดยรวม ภาพรวมสะท้อนถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่ แต่ไม่เด่นชัดเท่ากับ BTC ETF ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนสถาบันยังคงระมัดระวังการลงทุนใน Ethereum และเลือกจัดสรรเงินเฉพาะในกองทุนหลักที่มีสภาพคล่องสูงเท่านั้น 

ข่าวสารสำคัญ

หุ้น Coinbase (COIN) พุ่งแรง หลังมีประกาศเพิ่มเข้าดัชนี S&P 500 

Strategy (เดิมชื่อ MicroStrategy) เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมมูลค่า 765 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

Alchemy เข้าซื้อกิจการ DexterLab ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานบน Solana 

Privacy Pools โปรโตคอลความเป็นส่วนตัวบน Ethereum หยุดให้บริการฝากเงินชั่วคราวเนื่องจากพบข้อบกพร่อง 

ที่มา:  

https://www.coindesk.com/markets/2025/05/19/bulls-and-bears-get-caught-off-guard-as-bitcoin-jumps-to-usd106k-then-falls-back-to-usd103k?utm_source=chatgpt.com

https://blog.coinshares.com/volume-233-digital-asset-fund-flows-weekly-report-f38946027bd6

https://www.reuters.com/business/coinbase-shares-jump-addition-sp-500-index-2025-05-13/?utm_source=chatgpt.com

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้ 

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้   

 
ขอบคุณที่ติดตามครับ 
Wanchat