
Weekly Recap Research
Artemis Big Fundamentals in Crypto

[https://research.artemis.xyz/p/artemis-digital-finance-fundamentals]
ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ตลาดคริปโตขับเคลื่อนด้วยกระแส (narrative) ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็น AI, RWA, Layer-2 หรือแม้แต่กระแส meme-coin แต่รายงานล่าสุดจาก Artemis เรื่อง “Big Fundamentals in Crypto” กำลังส่งสัญญาณที่น่าสนใจว่า กระแสเงินเริ่มไหลกลับไปยังโปรเจกต์ที่สามารถสร้างรายได้และกำไรอย่างเป็นรูปธรรม—ไม่ต่างจากแนวคิดของบริษัทในตลาดหุ้นฝั่ง FinTech แนวโน้มนี้สะท้อนว่าท้ายที่สุดแล้ว “สินทรัพย์จากสองโลก” อย่างหุ้นและโทเคน กำลังมาบรรจบกันภายใต้แก่นเดียวกัน นั่นคือ ความสามารถในการสร้างรายได้ (Earnings Power)

[https://research.artemis.xyz/p/artemis-digital-finance-fundamentals]
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซียังคงเติบโตโดดเด่นในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มโทเคนที่เกี่ยวข้องกับ AI และ NFT Apps ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 90% โทเคนสาย AI อย่าง Worldcoin, Bittensor, Render, Virtuals และ Katio ต่างทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ Virtuals ที่พุ่งขึ้นถึง 265% ภายใน 30 วัน ขณะเดียวกัน แม้ Memecoins จะอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี แต่ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ก็สามารถฟื้นตัวและปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 100% สะท้อนถึงกระแสความสนใจที่ยังไม่จางหาย
Top Net flow

[https://app.artemis.xyz/flows]
ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Ethereum ยังคงครองอันดับหนึ่งด้านกระแสเงินทุนไหลเข้าสูงที่สุด โดยมีมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากนักลงทุนในสินทรัพย์นี้ ขณะที่อันดับรองลงมา ได้แก่ Arbitrum, Unichain, Base, Sei Network, BNB Chain, Mantle, StarkNet, Hyperliquid, Linea และ zkSync Era ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นในโซลูชัน Layer-2 และเครือข่ายใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในระบบนิเวศคริปโต
Berachain ครองอันดับหนึ่งของเครือข่ายที่มีกระแสเงินทุนไหลออกสูงสุดกว่า 400 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Solana, Sonic, Avalanche C-Chain, OP Mainnet, Sui, Polygon PoS, Bitcoin และ Ink ตามลำดับ ภาพรวมสะท้อนแรงขายที่ชัดเจนและความเชื่อมั่นที่ลดลงในหลายเครือข่าย ขณะเดียวกัน การเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินแสดงสัญญาณบวกต่อ Ethereum และกลุ่ม Layer-2 ที่ยังคงมีการพัฒนาและดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางเครือข่ายหน้าใหม่กำลังเผชิญแรงกดดันจากการถอนทุนในระดับที่มีนัยสำคัญ
Uniswap Chain

[https://dune.com/mud2monarch/countdown-to-three-trillion-united-states-dollars]
Uniswap สร้างสถิติใหม่ กลายเป็น DEX แรกที่มียอดการซื้อขายสะสมทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 ปัจจุบันแพลตฟอร์มมียอดซื้อขายเฉลี่ยต่อวันราว 3.3 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนราว 23% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในตลาด DEX แซงหน้า PancakeSwap ที่ครองส่วนแบ่ง 21% อย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ราว 3.05 ล้านล้านดอลลาร์ ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 ตอกย้ำสถานะของ Uniswap ในฐานะผู้นำตลาด DeFi และความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อระบบการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจนถึงปัจจุบัน
Fear & Greed Index

[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
ดัชนี Fear & Greed ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 70 คะแนน ซึ่งสะท้อนว่าตลาดเข้าสู่โซน “Greed” หรือความโลภต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง จากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 59 คะแนน เมื่อเทียบกับช่วงเดือนก่อนที่ดัชนีเคยอยู่ในโซน “Fear” หรือความกลัวที่ระดับ 45 คะแนน จะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์นักลงทุนที่ปรับจากความระมัดระวังไปสู่ความมั่นใจในเวลาอันสั้นภายในไม่ถึงหนึ่งเดือน
ภาพรวมของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในสัปดาห์นี้สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่ชัดเจนของความมั่นใจในตลาด นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับมาลงทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Bitcoin ETF ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาด ในขณะเดียวกัน ตลาด DeFi เช่น Uniswap ก็ยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยมีการใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศในภาพรวม
Bitcoin ETF Flow

ในช่วงวันที่ 5–9 พ.ค. 2568 กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ Bitcoin ETF แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของตลาดและความแตกต่างในแนวโน้มการลงทุนระหว่างกองทุนแต่ละราย โดยเฉพาะ ETF จาก Blackrock และ Fidelity ที่ได้รับความนิยมสูงจากนักลงทุน ขณะที่ Grayscale GBTC ยังคงเผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจมาจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าหรือการปรับกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนสถาบันโดยรวม โดยรวมแล้ว สัปดาห์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนสถาบันที่เริ่มให้ความสนใจกับ Bitcoin ETF มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมีเสถียรภาพและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
Ethereum ETF Flow

ในช่วงวันที่ 5-9 พ.ค. 2568 ตลาด Ethereum ETF แสดงให้เห็นถึงกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมีการซื้อกลับเข้ามาบ้างในช่วงปลายสัปดาห์ แต่โดยรวมแล้วนักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังและรอดูทิศทางที่ชัดเจนของตลาด Ethereum การถอนเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์อาจมาจากความผันผวนของราคา Ethereum และความไม่แน่นอนในภาพรวมเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 พฤษภาคม มีสัญญาณการฟื้นตัวเล็กน้อยจาก ETF ของ BlackRock ซึ่งอาจสะท้อนถึงความคาดหวังว่าราคา Ethereum จะปรับตัวดีขึ้นในระยะสั้น
นักลงทุนควรให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของตลาดในสัปดาห์ถัดไปอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตาม ETF ของ Blackrock และ Fidelity ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาด Ethereum ETF ในปัจจุบัน
ข่าวสารสำคัญ
ผู้ถือเหรียญ Trump เตรียมเข้า gala dinner โดยจะมีผู้ชนะทั้งหมด 220 คนเท่านั้น
เกาหลีใต้ Spot Crypto ETF ได้รับการสนับสนุนจากหลายพรรคการเมือง ก่อนศึกเลือกตั้ง ปธน.
Citi คาดการณ์: Stablecoins จะไม่ใช่แค่เครื่องมือเทรดคริปโต แต่จะขยายสู่ เศรษฐกิจกระแสหลัก
ที่มา:
https://icoholder.com/en/news/uniswap-hits-3-trillion-in-total-trading-volume
https://dune.com/mud2monarch/countdown-to-three-trillion-united-states-dollars
https://www.coinglass.com/spot-inflow-outflow
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat