Weekly Recap Research
The V-Shaped Market Playbook
[https://account.21stcapital.com/blog/the-v-shaped-pivot-tariffs-markets-and-bitcoins-reset]
Bitcoin ยังคงแสดงศักยภาพความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการสามารถทะลุแนวโน้มขาลงที่กดดันตลาดมาได้ แตกต่างจากสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวในลักษณะเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือการเริ่มสร้างฐานราคาหลังแรงขายคลี่คลาย ประกอบกับโมเมนตัมของฝั่งขาลงที่เริ่มอ่อนตัวลง ซึ่งลักษณะนี้เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วในรอบก่อนหน้า และมักจะเป็นสัญญาณหนึ่งของการฟื้นตัวในระยะถัดไป
ปัจจัยเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะนโยบายด้านภาษี ยังคงส่งผลต่อจิตวิทยาของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ แม้ผลกระทบของเงินเฟ้ออาจเป็นเพียงระยะสั้น แต่แนวโน้มโดยรวมอาจนำไปสู่การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ข้อมูลจากภาคธุรกิจเริ่มสะท้อนสัญญาณอ่อนแอมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เริ่มขยายตัว อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง อาจเปิดโอกาสให้ Fed ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดในระยะต่อไป นักวิเคราะห์บางรายยังประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจอยู่ในช่วง “Rolling Recession” ซึ่งเป็นลักษณะที่ภาคเศรษฐกิจบางส่วนหดตัวสลับกันไป ขณะที่ตลาดเองอาจอยู่ในช่วงของการสะสมพลัง สร้างฐานเพื่อรองรับกระแสเงินทุนที่รอจังหวะกลับเข้ามาเมื่อความเชื่อมั่นฟื้นตัว.
ข้อมูล On-Chain สะท้อนภาพสถานการณ์ตลาดในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนระยะสั้นที่กำลังเผชิญกับภาวะขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized loss) ในระดับสูง ซึ่งเป็นลักษณะที่เคยพบในช่วงใกล้จุดต่ำสุดของตลาด (market bottom) ในรอบก่อน ๆ ขณะเดียวกัน การที่มีการรับรู้ขาดทุนเพิ่มขึ้นก็เป็นสัญญาณของภาวะ capitulation หรือช่วงเวลาที่นักลงทุนจำนวนมากเริ่มยอมแพ้และเทขายออกจากตลาด
Bitcoin and Global Listed Companies Rankings
[https://www.coinglass.com/global-assets]
มูลค่าตลาดของ Bitcoin ขยับขึ้นมาแตะประมาณ 1.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Bitcoin ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของสินทรัพย์ที่มีมูลค่ารวมสูงที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับบริษัทชั้นนำและสินทรัพย์ดั้งเดิมอื่น ๆ โดยในลำดับที่สูงกว่าประกอบด้วย ทองคำที่ยังครองอันดับหนึ่ง (22.36 ล้านล้านดอลลาร์), ตามด้วย Apple (3 ล้านล้าน), Microsoft (2.73 ล้านล้าน) และ NVIDIA (2.41 ล้านล้าน) ขณะที่ Bitcoin กำลังรุกคืบเข้ามาใกล้กลุ่มผู้นำมากขึ้นเรื่อย ๆ
การที่ Bitcoin สามารถไต่ระดับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับสินทรัพย์ระดับ “Top Tier” ของโลก เช่น Big Tech ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสถาบันการเงินและภาครัฐในหลายประเทศ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ ผลตอบแทนระยะสั้นของ Bitcoin ที่โดดเด่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง +12.65% ภายใน 7 วัน และ +6.74% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเหนือกว่าการเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple ที่ปรับขึ้น +3.41% (7 วัน) และ +2.82% (24 ชม.) หรือแม้แต่ NVIDIA ที่กลับปรับลดลง –5.36% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
Sector Performance
[https://app.artemis.xyz/home]
ช่วง 7 วันที่ผ่านมา ผู้นำกลุ่ม AI ทำผลตอบแทนได้โดดเด่นที่สุดที่ +23.8% ตามด้วย Bitcoin Ecosystem (+23.1%), Memecoin (+22.9%) และ Gaming (+22.0%) สะท้อนแรงเก็งกำไรและความคึกคักในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ AI, GameFi ส่วน DeFi และโครงสร้างพื้นฐาน ทั้ง Oracle (+17.1%), Data Availability (+17.0%), DeFi (+18.1%) และ Staking Services (+18.7%) ยังคงได้รับความสนใจต่อเนื่อง เนื่องจากประกาศโปรโตคอลใหม่ ๆ และแรงจูงใจด้านผลตอบแทน
Top Net flow
[https://app.artemis.xyz/flows]
ในช่วงวันที่ 14–20 เมษายนที่ผ่านมา Unichain กลายเป็นผู้นำในการดึงดูดเงินทุน ด้วยยอดเงินไหลเข้าสูงถึงเกือบ 150 ล้านดอลลาร์ สะท้อนกระแสความนิยมของโปรโตคอลที่มุ่งเน้นด้าน Yield และ DeFi ขณะที่ Ethereum ยังคงรักษาตำแหน่ง “เชนแม่” ไว้อย่างแข็งแกร่ง ด้วย inflow ราว 70 ล้านดอลลาร์ แม้จะเผชิญกับต้นทุนค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นก็ตาม ในทางกลับกัน OP Mainnet มีเงินไหลออกมากที่สุดประมาณ –90 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนหลังจากเก็บกำไรจากรอบแรกของ L2 ส่วน Berachain ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเชนทางเลือกที่น่าจับตา ก็มี outflow ราว –70 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการรอจังหวะเข้าสู่โปรแกรม yield ใหม่ หลังรอบแรงจูงใจรอบแรกเริ่มชะลอตัวลง
Fear & Greed Index
[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่นๆการวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
ดัชนี Fear & Greed ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29 สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อภาวะความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณของการคลายความกังวลลงในบางช่วงบ้างแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ความรู้สึกหวาดระแวงดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตลาดคริปโตเพียงอย่างเดียว แต่ยังลุกลามไปถึงตลาดทุนและตลาดการเงินทั่วโลกอีกด้วย
Bitcoin ETF Flow
ระหว่างวันที่ 14-20 เมษายน 2025 กระแสเงินทุนสุทธิในกองทุน Bitcoin Spot ETF อยู่ที่ +13.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนในช่วงนี้ โดยวันที่ 14 มี inflow เล็กน้อยที่ +1.5 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่วันที่ 15 จะมี inflow เพิ่มขึ้นเป็น +76.4 ล้านดอลลาร์ โดยกอง IBIT และ ARKB ได้รับความสนใจสูงสุดในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูการปรับพอร์ตและปัจจัยใหม่ ๆ อย่างข่าวการอนุมัติจาก SEC สหรัฐฯ, อัตราผลตอบแทนกระแสหลัก และการเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ในกรอบ 85,000–88,000 ดอลลาร์ โดยกองทุนอย่าง IBIT, FBTC และ ARKB ยังคงเป็นที่นิยม ขณะที่ GBTC รุ่นเก่ายังคงไม่ได้รับความสนใจมากนัก สัญญาณเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าตลาด Spot Bitcoin ETF กำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวก่อนการประกาศข่าวสำคัญครั้งถัดไป
Ethereum ETF Flow
ระหว่างวันที่ 14–20 เมษายน 2025 Ethereum Spot ETF ทั่วระบบประสบกับกระแสเงินทุนสุทธิที่ติดลบประมาณ 32.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับพอร์ตและความระมัดระวังของนักลงทุน โดยทั้ง ETHA (BlackRock) และ FETH (Fidelity) เริ่มประสบกับแรงขายทำกำไร เมื่อวันที่ 14 เมษายนเกิดการไหลออกของเงินทุน 6.0 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะขยายเป็น 14.2 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 15 จากการขายใน FETH และ ETHE (Grayscale Spot) ในวันที่ 16 เมษายนยังคงเห็นการไหลออก 12.1 ล้านดอลลาร์ แต่การไหลออกเริ่มชะลอตัว โดยราคาของ ETH ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 3,100–3,200 ดอลลาร์ ตลอดทั้งสัปดาห์ นักลงทุนยังคงจับจังหวะในการซื้อขายและปรับกลยุทธ์ กองทุนที่มีการลดค่าธรรมเนียมได้ดีสุดมักจะดึงดูดเงินทุนในระยะยาว ขณะที่ ETHE ยังคงเจอแรงขายต่อเนื่องจนกว่าจะมีข่าวที่ชัดเจนจากโครงข่ายและ SEC.
ข่าวสารสำคัญ
Volume เทรด Spot ตกต่ำสุดรอบ 6 เดือน นักลงทุนย้ายไปตลาด Futures มากขึ้น
ยอดค้นหา Bitcoin, Ethereum บน Google พุ่งสูง สะท้อนความสนใจรายย่อยฟื้นตัว
ราคา Bitcoin พุ่งแรง Breakout แนวต้าน กลับมายืนเหนือ $87,000 – สัมพันธ์ทองคำแข็งแกร่งขึ้น
Bitcoin นำทีม ETH, XRP, ADA พุ่งแรง หลังดอลลาร์ร่วงหนักจาก ภัยคุกคามอิสรภาพ Fed
ที่มา:
https://account.21stcapital.com/blog/the-v-shaped-pivot-tariffs-markets-and-bitcoins-reset
คำเตือน:
คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat