Weekly Recap Research
Onchain Stocks
[https://dune.com/hashed_official/xstocks-metrics]
หุ้นในรูปแบบ Onchain (Onchain Stocks) กำลังเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Kraken และ Bybit ได้เปิดตัว xStocks บนเครือข่าย Solana ซึ่งเป็นโทเคนที่อ้างอิงหุ้นสหรัฐฯ กว่า 60 ตัว เช่น AAPL, GOOGL และ TSLA โดยมียอดซื้อขายทะลุ 20 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่วัน ขณะที่ Robinhood ก็ได้เปิดตัวโทเคนหุ้นสำหรับผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป พร้อมแผนสร้าง Layer-2 ของตนเองบน Arbitrum เพื่อรองรับการนำสินทรัพย์ในโลกจริง (Real-World Assets) เข้าสู่บล็อกเชน นอกจากนี้ Centrifuge ได้จับมือกับ S&P Dow Jones Indices เพื่อนำดัชนี S&P 500 ขึ้นมาอยู่บนระบบ Onchain และ Ondo Finance ก็ได้เข้าซื้อกิจการ Oasis Pro เพื่อพัฒนาระบบนิเวศของหลักทรัพย์โทเคนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกา
Hyperliquid ผู้นำ Perp DEX
[https://research.artemis.xyz/p/hyperliquid-a-valuation-model-and?utm]
Hyperliquid คือแพลตฟอร์มการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ (Perpetual DEX) ซึ่งมีการเติบโตของปริมาณการซื้อขายและส่วนแบ่งการตลาดอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ความแตกต่างที่สำคัญของ Hyperliquid อยู่ที่การพัฒนาแพลตฟอร์มบน Hyperliquid L1 ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชน Layer-1 ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรองรับการซื้อขายที่มีปริมาณธุรกรรมสูง โครงสร้างนี้สร้างข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้กับแพลตฟอร์ม
ประสิทธิภาพของเครือข่าย: การเป็นเครือข่ายแบบ Application-Specific ช่วยให้ Hyperliquid สามารถประมวลผลคำสั่งซื้อขายได้มากกว่า 50,000 รายการต่อวินาที (TPS) โดยไม่ประสบปัญหาความแออัดของเครือข่าย (Network Congestion)
ประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience): การไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม Gas ในทุกธุรกรรม และความหน่วงต่ำ (Low Latency) ทำให้ประสบการณ์การใช้งานใกล้เคียงกับแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange)
ระบบ Order Book: การเลือกใช้ระบบจับคู่คำสั่งซื้อขายแบบ Central Limit Order Book (CLOB) ช่วยให้เทรดเดอร์มืออาชีพสามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแตกต่างจากโมเดล Automated Market Maker (AMM) ที่มักมีข้อจำกัดเรื่อง Slippage และ Price Impact
ความสำเร็จของ Hyperliquid เกิดจากสถาปัตยกรรมทางเทคนิคที่โดดเด่น ซึ่งช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งมีกลยุทธ์สร้างแรงจูงใจที่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานและเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ การนำกรอบการประเมินมูลค่าที่อิงปัจจัยทางการเงินมาใช้ ยังช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ศักยภาพของโปรโตคอลได้จากปัจจัยพื้นฐานที่เป็นรูปธรรม มากกว่าการพึ่งพากระแสความนิยมในตลาดเพียงอย่างเดียว
Top Net flow
[https://app.artemis.xyz/flows]
ภาพรวมกระแสเงินทุน On-Chain ในรอบ 7 วันล่าสุดจาก Artemis สะท้อนให้เห็นปรากฏการณ์ “การหมุนเวียนของเงินทุนครั้งใหญ่” (The Great Rotation) ซึ่งมีสาเหตุจากวิกฤตความเชื่อมั่น โดย BNB Chain เป็นเครือข่ายที่เผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออกครั้งประวัติศาสตร์ ในขณะที่ Ethereum กลับเป็นเครือข่ายที่มีเงินไหลเข้าเป็นจำนวนมาก กราฟแสดงให้เห็นเงินทุนไหลออกสุทธิจาก BNB Chain ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าสูงผิดปกติและมากที่สุดเมื่อเทียบกับบล็อกเชนอื่น ๆ ทั้งหมด จากการตรวจสอบข้อมูลและรายงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยบล็อกเชนชั้นนำอย่าง PeckShield และ CertiK พบว่าในช่วงต้นสัปดาห์ (ประมาณวันที่ 1-2 กรกฎาคม) ได้เกิดเหตุการณ์การโจมตีช่องโหว่ (Exploit) ครั้งใหญ่บนโปรโตคอล DeFi หรือสะพานเชื่อมต่อเชน (Cross-chain Bridge) ที่สำคัญบน BNB Chain
Fear & Greed Index
[https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/]
ดัชนี Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคา,ปริมาณการซื้อขาย,ความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ การวัดค่าดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงสภาวะตลาดในปัจจุบัน
ดัชนีชี้วัดอารมณ์ตลาด (Market Sentiment) ในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2568 แสดงให้เห็นการปรับตัวขึ้นของดัชนี Fear & Greed สู่ระดับ 73 สะท้อนว่าตลาดได้เปลี่ยนจากภาวะ “ความไม่แน่นอน” ในช่วงต้นเดือน มาเป็น “ความเชื่อมั่นเชิงบวกอย่างเต็มที่” ในปัจจุบัน อารมณ์ของนักลงทุนไม่ได้เป็นเพียงการฟื้นตัว แต่ยังสะท้อนถึงความคาดหวังเชิงรุกต่อทิศทางตลาดในอนาคต โดยมีแรงหนุนสำคัญจากความหวังว่านโยบายการเงินจะผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโทเคอร์เรนซี
Bitcoin ETF Flow
สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมและไตรมาสที่ 3 (30 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2568) เป็นช่วงที่ตลาด Spot Bitcoin ETF ของสหรัฐฯ เปิดตัวด้วยแรงเทขายอย่างรุนแรง ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงปลายสัปดาห์ และปิดทำการเนื่องในวันหยุดสำคัญของสหรัฐฯ ตลอดทั้งสัปดาห์ มีกระแสเงินทุนไหลเข้าสุทธิรวมทั้งสิ้น 769.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Bloomberg Intelligence วิเคราะห์ว่าแรงขายหนักในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันทำการแรกของไตรมาสที่ 3 สะท้อนการ “ปรับพอร์ตของกองทุนและนักลงทุนสถาบัน” หลังจากตลาดสร้างผลงานโดดเด่นในเดือนมิถุนายน การขายทำกำไรเมื่อต้นไตรมาสใหม่จึงถือเป็นกลยุทธ์ที่พบได้เป็นปกติ เพื่อการล็อกผลกำไรและจัดสรรเงินทุนใหม่
Ethereum ETF Flow
สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม (30 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2568) ตลาด Spot Ethereum ETF แสดงความสัมพันธ์กับทิศทางของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโดยรวม โดยเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความผันผวน ก่อนปิดสัปดาห์ด้วยแรงซื้อตามหลัง Bitcoin จากข่าวดีด้านเศรษฐกิจมหภาค มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิรวมทั้งสัปดาห์อยู่ที่ 219.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในวันที่ 30 มิถุนายนและ 1 กรกฎาคม เงินทุนไหลเข้าสุทธิปานกลางที่ 31.8 ล้านและ 40.7 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ขณะที่วันที่ 3 กรกฎาคม ตลาดฟื้นตัวอย่างรุนแรง มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิสูงถึง 148.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์
แม้ว่ากระแสเงินทุนจะฟื้นตัวตามภาพรวมตลาด แต่ K33 Research ยังคงเน้นย้ำว่าตลาดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับการอนุมัติ Staking สำหรับกองทุน ETF ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นอุปสงค์ระลอกใหม่ ดังนั้นการไหลเข้าของเงินทุนในปัจจุบันยังคงขับเคลื่อนโดยปัจจัยมหภาคเป็นหลัก และยังไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของ Ethereum อย่างเต็มที่
ข่าวสารสำคัญ
ก.ล.ต. สหรัฐฯ อนุมัติกองทุนรวมคริปโตของ Grayscale ชี้เป็นสัญญาณบวกต่อข้อเสนอ ETF อื่นๆ
สัดส่วนปริมาณเทรดฟิวเจอร์สบน DEX ต่อ CEX พุ่งแตะ 8% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Ant Group และ JD.com เสนอให้ธนาคารกลางจีนพิจารณาออก Stablecoin สกุลหยวนในต่างประเทศ
ที่มา:
https://dune.com/hashed_official/xstocks-metrics
https://research.artemis.xyz/p/hyperliquid-a-valuation-model-and?utm
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ขอบคุณที่ติดตามครับ
Wanchat